โพสต์ Thank You

แสดงโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับ Thank-O-Matic.จะแสดง ข้อความที่ คุณ ได้รับการเปลี่ยนเเปลง Thank You จากผู้อื่น.


Messages - volvo960

ตย. เคสกรณีศึกษา ย้ำ! เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวผมครับ ปัจจุบันมีสินเชื่อที่เป็น "บัตรเครดิต" และ "บัตรกดเงินสด" กับทางแบงค์ อยู่ประมาณ 4-5 ที่ ถือมาได้ประมาณ 13 ปี และตั้งแต่เปิดใช้งานมามีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ผ่อนชำระสินค้าบ้าง ใช้ในธุรกิจบ้าง ไม่เคยผิดนัดชำระแม้แต่ครั้งเดียว(ชำระก่อนถึงดิว+เต็มจำนวนด้วยครับ) ผมจะระมัดระวัง และรักษาเครดิตค่อนข้างดีมาก ในเครดิตบูโรทุกแบงค์จะขึ้นสถานะ "10=ปกติ" ทั้งหมด รวมถึงได้รับการปรับวงเงินขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่! ระยะหลังๆ ผมเองก็ไม่สามารถขอสินเชื่อเพิ่มเติม กู้ซื้อคอนโด หรือบ้านผ่านได้เลย ทั้งที่มีศักยภาพในการผ่อนชำระได้อย่างสบายๆ ***ถึงแม้ผมจะกู้ขอสินเชื่อจากแบงค์ไม่ได้แต่ผมก็ยังมีวินัยทางการเงิน รักษาเครดิตด้วยดีมาโดยตลอดครับ***

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 53 จุดเริ่มต้น คือ ผมได้ทำเรื่องกู้สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคลกับแบงค์ต่างชาติแห่งหนึ่ง ที่ผมได้ถือบัตรเครดิตไว้ ซึ่งพนักงานขายได้โทรมานำเสนอเป็นอีกวงเงินหนึ่ง และแจ้งวงเงินที่ได้รับเรียบร้อย รออนุมัติโอนเข้าบัญชี ดูเหมือนจะไม่มีอะไร จนมี sms เข้ามา + พนักงานขายโทรกลับมาแจ้งว่าฝ่ายอนุมัติสินเชื่อไม่สามารถอนุมัติให้ได้ครับ จึงได้สอบถามกลับไปว่าสาเหตุเกิดจากอะไร พนักงานขายก็ไม่ค่อยอยากจะแจ้งผมมาสักเท่าไร ต้องขอร้องจนน้องเขากระซิบแจ้งกลับมาว่า "แบงค์สีเหลืองติด ฟอร์ด พี่ในระบบซึ่งก็คือคือการปลอมแปลงเอกสาร พี่ต้องไปเคลียร์กับแบงค์ เพื่อเอาตัวนี้ออกก่อนครับ" ***ต้องขอขอบคุณน้องพนักงานขายคนนี้มากๆ ครับ ที่ทำให้ผมรู้ว่าต้นเหตุของปัญหามาจากไหน***

จึงได้โทรไปเช็คที่แบงค์สีเหลืองโดยตรงเพื่อตรวจสอบว่าจริงหรือไม่? พนักงานก็แจ้งกลับมาว่า "ไม่มี ปกติทุกอย่างค่ะ" จากนั้นได้ไปทำเรื่องที่แบงค์สีฟ้าเพื่อขอรายงานสถานะในเครดิตบูโรอย่างละเอียดก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้ไปสมัคร "บัตรเครดิต" กับเจ้าหน้าที่แบงค์สีเหลืองในห้างแถวศรีนครินทร์เพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้อของใช้เข้าบ้านโดยใช้หนังสือรับรองเงินเดือนบริษัทที่ทำงานประจำแต่ "ไม่ผ่าน" หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ได้ไปยื่นสมัคร "บัตรเครดิต" แบงค์เดิมเองซ้ำอีกครั้งในอีกห้างหนึ่งแถวศรีนครินทร์เหมือนกัน โดยใช้รายได้อื่นๆ(บ้านเช่าธุรกิจในครอบครัว) แทน ที่ได้รายรับมากกว่าเงินเดือนประจำแต่ก็ "ไม่ผ่าน" เหมือนเดิม ก็ไม่ได้คิดอะไรปล่อยผ่านไป ***การยื่นเอกสารซ้ำ + แจ้งรายได้ไม่ตรงกัน จุดนี้น่าจะเป็นจุดที่แบงค์นี้ให้ผมติด "ฟอร์ด" ในระบบ***

พอเข้าช่วงกลางปี 55 ได้ลองทำเรื่องกู้ซื้อคอนโดแถวอ่อนนุช คราวนี้ยื่น 3 แบงค์มี เหลือง ม่วง แดง สังเกตได้ว่าเรื่องจะผ่านทะลุไปจนถึงขั้นวงเงินที่ได้รับทุกแบงค์ พนักงานขายตามดีมาก แต่พอถึงขั้นจะต้องกดอนุมัติกลับ "ไม่ผ่าน" + sms แจ้ง เหมือนพนักงานขายที่ดิวอยู่จะเริ่มรู้เป็นนัยๆ ล่วงหน้า ก็จะนิ่งหายไปเลย ผมก็ต้องตามต่อว่าเกิดจากสาเหตุอะไร กว่าจะได้คำตอบ ซึ่งพนักงานขายแบงค์สีม่วง กับแดงแจ้งเหมือนกันคือ "แบงค์สีเหลืองติดฟอร์ดพี่ในระบบ" ส่วนแบงค์สีเหลืองแจ้งว่า "ไม่ผ่านอย่างเดียว โดยไม่แจ้งเหตุผลใดๆ เลย"

พอเข้าปี 56-60 ได้ลองสมัคร "บัตรเครดิต" กับทางนอนแบงค์ เจ้าแรก ดูปรากฎว่า "ผ่าน" ครับ ใช้มาได้ไม่กี่ปีได้รับการปรับวงเงินขึ้นมามากกว่าบัตรเครดิตของแบงค์ที่ถืออยู่ทั้งหมด และผ่านไปได้ประมาณ 4 ปีได้ลองสมัครบัตรกดเงินสดกับทางนอนแบงค์เหมือนกันเป็น เจ้าที่สอง ดูปรากฎว่า "ผ่าน" เช่นกันครับ ใช้ไปได้ไม่กี่เดือนถูกปรับวงเงินขึ้นมามากกว่าบัตรกดเงินสดของแบงค์ที่ถืออยู่ทั้งหมดอีกเช่นกันครับ ***ทั้ง 2 บัตรยังคงใช้งานมาจนถึงปัจจุบันครับ และยังได้ลองสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลโอนเข้าบัญชีกับนอนแบงค์ เจ้าแรก ดูปรากฎว่าก็ยัง "ผ่าน" อีกเหมือนเดิมครับ***

เคสของผมสรุป คือ ข้อมูลที่เป็นเครดิตบูโรจะใช้ร่วมกันระหว่าง "แบงค์" กับ "นอนแบงค์" ซึ่งเคสผมเอง ไม่มีประวัติเสีย เลยทำให้เวลาขอสินเชื่อกับทาง "แบงค์" จะทะลุผ่านไปถึงขั้นวงเงินที่ได้รับ แต่จะไม่ผ่านในขั้นตอนกดอนุมัติ เนื่องจากไปติด โปรแกรมฟอร์ด กับทาง "แบงค์" ซะก่อน ส่วน "นอนแบงค์" สามารถทะลุผ่านถึงขั้นตอนกดอนุมัติได้เลย โดยที่ไม่มี หรือลิ้งค์ โปรแกรมฟอร์ด เข้ามาเกี่ยวข้องเลย ดังนั้นผมจะสามารถขอสินเชื่อทั้งหมดที่เป็น "นอนแบงค์" ได้เท่านั้นครับ

ฟอร์ด(fraud) เกิดขึ้นได้อย่างไร : "ฟอร์ด" ก็คือ "การปลอมแปลงเอกสาร" ไม่ตรงตามข้อมูลความเป็นจริง เพื่อต้องการให้สินเชื่อที่ยื่นกู้นั้นผ่าน ปัจจัยที่ทำให้เกิด "ฟอร์ด" เกิดได้จาก ดังนี้
 1. "ตัวผู้ยื่นสินเชื่อเอง" ทั้งจาก เจตนา อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ตามคำแนะนำผิดๆ บอกต่อๆ กันมา เช่น แต่งบัญชี, หักประกันสังคมไม่ตรงกับรายได้จริง, ข้อมูลการเสียภาษีไม่ตรง ฯลฯ และ ไม่เจตนา ทำโดยไม่รู้โดยสุจริต เช่น ยื่นสินเชื่อที่เดิมซ้ำติดกัน, มีรายได้หลายช่องทาง ยื่นไม่ตรงกัน ฯลฯ ***สินเชื่อบ้าน รถ ถือเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพของมนุษย์เงินเดือนทุกคน คงไม่มีใครไม่อยากให้ไม่ผ่านหรอกครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะมาลงที่ใครก็เท่านั้น ตามด้วยคำพูดดูแคลนต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะติดคุกทางการเงิน, เป็นโจร, ขี้โกง, เน่าเฟะ, ตายทั้งเป็น, ติดไปตลอดชีวิต, หมดอนาคต ล้วนแล้วแต่ปั่นทอนจิตใจทั้งสิ้น***

 2. "บุคคลอื่น" เช่น บริษัทตัวแทนแบงค์ เจ้าหน้าที่แบงค์ พนักงานขาย คนใกล้ชิดทั้งที่รู้จัก และไม่รู้จัก แอบอ้างปลอมแปลงเอกสารเพื่อความรวดเร็ว ไม่เสียเวลา เพื่อให้ได้มาซึ่งเป้า ยอดขาย ค่าคอมฯ ตามที่ต้องการ โดยไม่คำนึงถึงผู้ยื่นสินเชื่อว่าจะได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน

 3. "เจ้าหน้าที่ส่งข้อมูลฟอร์ดของแบงค์" เกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่แบงค์ที่เกี่ยวข้องเองโดยตรง ขาดตรรกะใช้ดุลพินิจในการพิจารณา ไม่เช็ค ไม่มีระบบตรวจสอบข้อมูลเอกสารย้อนกลับที่เป็น "มาตรฐานสากล" ทำลายอนาคตของผู้ขอสินเชื่อ ทั้งที่มีศักยภาพแต่ไม่มีโอกาสได้รับการแก้ตัว ทำให้แบงค์ได้รับความเสียหาย สูญเสียโอกาส และรายได้

***ผู้บริหารจะรู้ได้อย่างไร? ว่าเจ้าหน้าที่นำส่งข้อมูลว่าจะให้ใคร "ฟอร์ด" ไม่ "ฟอร์ด" นั้นมีวุฒิภาวะมากเพียงพอ เพราะเขาเหล่านั้นก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องพิจารณาสินเชื่อเป็นประจำอาจจะกำลังเบื่อหน่าย เซ็ง เจอเคสแบบเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวัน หรืออาจะกำลังมีปัญหาส่วนตัว ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว สุขภาพ และการเงินอยู่ก็เป็นได้ แล้วจะรู้ได้อย่างไร? ว่าจะไม่เอาอารมณ์ ความนึกคิดส่วนตัว(โดยใช้ id มากกว่า ego) มาพิจารณาเอกสารในมือไม่กี่แผ่น แล้วตัดสินให้คนนั้นคนนี้ "ฟอร์ด" อย่าลืมนะครับความผิดพลาดในส่วนนี้เกิดขึ้นสะสมมากขึ้นทุกวัน เพียงแค่รอวัน "ปะทุ" ขึ้นมาเท่านั้นเอง เพราะเขาเดือดร้อนกันจริงๆ บางเคสปล่อยหลุดผ่านไปมีให้เห็นกันก็เยอะแยะ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นตรงนี้ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ? และหน่วยงานที่ควบคุมกำกับดูแลจะมีบทลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และแบงค์อย่างไร?

อย่างเคสกรณีผม และเคสที่เจอปัญหาแบบเดียวกันกับผมมีอยู่จำนวนไม่น้อยที่ต้องมาติด "ฟอร์ด" จากความสะเพร่า เผอเรอของเจ้าหน้าที่ แล้วเครดิตบูโรจะมีไว้ทำไม? เครดิตที่ดีเวลาสร้างมันใช้เวลานานมากนะครับ กว่าจะครบ 5 ปี 10 ปี 13 ปีมาได้โดยไม่ผิดนัดชำระเลยสักครั้งเดียว ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะครับ แต่เวลาตัดสินให้ "ฟอร์ด" ทำไมมันใช้เวลาสั้นจัง เหมือนไปตัดสินเขาแล้วว่าคนนี้เป็นคนผิด ทำไมไม่ย้อนกลับไปดูในเครดิตบูโรว่ามัน "ขัดแย้งกันไหม" แล้วมีระบบที่เป็น "มาตรฐานสากล" ในการเช็คเอกสารย้อนกลับว่าเป็นไปได้ไหมว่าคนคนนี้จะปลอมแปลงเอกสาร ทำไมไม่เรียกเจ้าของเอกสารมาสอบถามชี้แจง คำถามคือแล้วถ้าผม หรือคนอื่นๆ ที่เจอสถานการณ์แบบเดียวกันแล้วไม่ได้ทำจริงๆ ล่ะ? อนาคตที่ถูกทำลายไปจะเอาคืน และเยียวยายังไง?***


วิธีแก้ปัญหา :
- เบื้องต้นให้ลองติดต่อแบงค์ต้นเหตุ ส่วนรับเรื่องร้องเรียน เพื่อสอบถามสาเหตุ ขอคำแนะนำปรึกษา(โดยปกติแบงค์จะไม่ให้ข้อมูลส่วนนี้มาเนื่องจากเป็นนโยบายแบงค์อาจมีความผิดได้ ต้องเป็นคนรู้จักภายใน หรือต่างแบงค์ถึงจะทราบ) หรือติดต่อ สมาคมธนาคารไทย เพื่อหาแนวทางการแก้ไข
- จากนั้นทำหนังสือร้องเรียน(แนบรับรองสำเนาบัตรประชาชน) ไปยังแบงค์ที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง + ส่ง ems ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพ้นเกิน 15 วันทำการนับจากวันเซ็นรับ แล้วยังไม่ติดต่อกลับมา นิ่ง หรือเพิกเฉย ---> ช่องทางรับเรื่องร้องเรียน
- ให้กรอก "แบบฟอร์มร้องเรียน" ถึงศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน(ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร 1213 www.1213.or.th ใช้เวลาประมาณ 20 วันทำการ ทาง ศคง. จะส่งเรื่องไปให้ศาลแขวงเพื่อหาข้อสรุป และทางออกให้กับเราได้ครับ กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกปลอมแปลงเอกสาร หรือเกิดจากความผิดพลาดจากการส่งข้อมูล "ฟอร์ด" ของแบงค์ ทำให้ได้รับความเสียหายสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ทั้งทางแพ่ง และอาญา

หมายเหตุ :
- ในระบบส่วนกลางภายในระหว่างแบงค์ด้วยกันจะมีโปรแกรตัวหนึ่งที่แชร์รายงานสถานะ id ของผู้ขอสินเชื่อ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ทุกแบงค์จะสามารถเข้าถึงกันได้หมด ว่าไปติด "ฟอร์ด" ที่แบงค์ไหน เมื่อไร สาเหตุอะไร เป็นเหตุให้แบงค์ปฏิเสธสินเชื่อ โดยไม่พิจารณาเอกสารประกอบใดๆ เลย ระบบดังกล่าวไม่มีกฎหมายรับรอง ใช้จัดทำขึ้นเพื่อเปิดเผยข้อมูลโดยพลการ ถือว่า "ผิดกฎหมาย" เป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม "กฎหมายได้รับรองสถานะผ่านเครดิตบูโรที่เดียวเท่านั้น ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และต้องได้รับความยินยอมด้วยถึงจะสามารถเข้าดูข้อมูลได้" ซึ่งหากผู้ที่ส่งข้อมูล "ฟอร์ด" ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ขาดวุฒิภาวะ ปราศจากกการคัดกรองตรวจสอบอย่างเป็นระบบถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว ส่งผลให้ผู้ขอสินเชื่อได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อน ยากต่อการควบคุม และแก้ไขได้ อีกทั้งหากหน่วยงานที่ควบคุมกำกับดูแลโดยตรงได้รับทราบถึงปัญหาร้องเรียนดังกล่าวแล้วยังปล่อยปละละเลยเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายด้วยเช่นกัน

- ฝากเรียนถึงหน่วยงานที่ควบคุมกำกับดูแล และผู้บริหารแบงค์รุ่นใหม่ที่ดีเป็น "น้ำดี" มีวิสัยทัศน์ เข้าใจ มองเห็นถึงความสำคัญของปัญหา รวมถึงผลกระทบกับแบงค์ ความเสียหายที่เกิดขึ้น และโอกาสที่สูญเสียไป เพื่อหาทางออกร่วมกันให้มี "โอกาส" ได้กลับมาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไป เหมือนกับผู้ที่ติด "แบล็คลิสในเครดิตบูโร" ให้สามารถยืนขึ้นมาได้ใหม่อีกครั้ง รวมถึงวางแนวทางป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต มีระบบถ่วงดุลน้ำหนักระหว่าง "เอกสาร" กับ "ประวัติย้อนหลังในเครดิตบูโร" และสามารถชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ได้ด้วยตนเอง

***ฝากอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ! อยากให้หน่วยงานที่ควบคุมกำกับดูแลโดยตรง และผู้บริหารแบงค์ ลองสำรวจจำนวนผู้ที่ติด "ฟอร์ด" ทั้งหมดว่ามีจำนวนเท่าไร? แล้วเช็คกับ "ประวัติย้อนหลังในเครดิตบูโร" จนถึงปัจจุบัน แล้วดึงจำนวนผู้ติด "ฟอร์ด" ที่มี "ประวัติการชำระดี" ออกมาว่ามีจำนวนเท่าไร? แล้วให้รีเช็คเอกสารย้อนกลับไปเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ลองประเมินค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแบงค์ดูครับ ว่าการให้ "ฟอร์ด" มันขัดแย้งกับพฤติกรรมของผู้ขอสินเชื่อหรือไม่? เพื่อเก็บสถิติหาทิศทางว่าจะปรับหาทางแก้ไขอย่างไรต่อไป ไม่ใช่เป็นการให้แต่อำนาจหน้าที่อย่างเดียวโดยไม่คำนึงผลกระทบที่ตามมาในวงกว้าง แต่ต้องสามารถรีเช็คกลับมา "วัดคุณภาพของเจ้าหน้าที่" ได้ด้วย เพื่อถ่วงดุลอำนาจกัน และ "ระบบฟอร์ด" จะยังควรมีอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ ให้ไว้เป็นข้อคิดครับ***




ฟอร์ดเอกสาร, ฟอดเอกสาร, ติด f, ติดระบบฟรอด, fraud เอกสารแบงค์, ยื่นกู้ธนาคาร, กู้บ้าน, กู้คอนโด, กู้รถ, สมัครบัตรเครดิต, ขอสินเชื่อไฟแนนซ์, d25 fraud list, internal information, ประวัติไม่ดี, สถานะเฝ้าระวัง, watch list, ปลอมแปลงเอกสาร, เอกสารปลอม, ทุจริตเอกสาร, เอกสารไม่น่าเชื่อถือ, ขาดความน่าเชื่อถือของเอกสาร, หลอกลวง, เจตนาทุจริต, การฟอกเงิน, แบล็คลิส, black list, ตรวจสอบเครดิตบูโร, บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ, credit bureau, ncb

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

วันนี้เอาเคสตัวอย่าง "เซ็นทรัลล็อคฝาถังน้ำมัน s80" มาให้ได้ดูกันครับ ของเดิมอาการคือมอเตอร์ทำงานปกติสังเกตได้จากลองกดรีโมท "lock" กับ "unlock" จะได้ยินเสียงมอเตอร์หมุน ไฟมาปกติ แต่ขาล็อคไม่ยื่นออกมาล็อคที่ฝาถังน้ำมัน เปลี่ยนของใหม่มือสองเซียงกงก็มีอาการแบบเดียวกันครับ เลยได้ทำการผ่าเปิดข้างในดูพบว่า "ฟันเฟือง" หัก 4 ซี่ สาเหตุหลักสรุปได้ดังนี้ครับ

1. จารบีแห้ง
2. ซีลกันกระแทกที่คอตรงขาล็อคเสื่อมสภาพกรอบแตก
3. ฟันเฟืองเป็นพลาสติกขึ้นรูปชิ้นเดียวค่อนข้างเปราะ
4. ใช้มือดึงขาตัวล็อคขึ้น-ลงเอง เสี่ยงต่อฟันเฟืองหักได้ง่าย
5. ฟันเฟืองที่มอเตอร์จะเป็นเหล็ก เมื่อฟันเฟืองพลาสติกหัก 1 ซี่โอกาสลามไปซี่อื่นๆ ได้ง่ายเนื่องจากฟ้นเฟืองเหล็กจะหมุนในช่องว่างค่อนข้างเร็ว เมื่อซี่ฟันเฟืองพลาสติกมาขัดก็จะหักทันทีครับ

หมายเหตุ : ***คลิกที่ภาพเพื่อขยาย***
- ตอนซื้อแนะนำให้ที่่ร้านลองป้อนไฟ 12v(แค่แตะๆ พอ) ขาล็อคจะต้องขึ้นสุด เมื่อสลับขั้วจะต้องลงสุด มอเตอร์จะต้องหยุด ไม่หมุนฟรี ถ้าหมุนฟรีแสดงว่าเฟืองรูดแล้วครับ ***เคสนี้ซื้อมามือสอง 1,000.- ไม่ได้เทสมา ชุดเฟืองหายาก และไม่มีแยกขาย***
- ชุดเซ็นทรัลล็อคของ v70 กับ s80 หน้าตาจะคล้ายๆ กันแต่เดือยล็อคไม่เหมือนกันใส่แทนกันไม่ได้ แต่ตัวมอเตอร์สามารถนำมาใช้แทนกันได้ครับ
- ชุดเซ็นทรัลล็อคฝาถังน้ำมันของใหม่เบิกห้างอยู่ที่ 5,878.- ส่วนชุดฝาถังติดมาพร้อมกับเดือยล็อค 2,844.- และขายึดบานพับ 800.-




วอลโว่, volvo, s80, มอเตอร์ฝาถังน้ำมัน, กลอนฝาถังน้ำมัน, เซ็นทรัลล็อคฝาถังน้ำมัน, ฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิง, ฝาถังน้ำมันไม่ล็อค, ปิดไม่ได้, ไม่ทำงาน, เงียบ, มอเตอร์เสีย, ติดๆ ดับๆ, หมุนบ้างไม่หมุนบ้าง, ทำงานช้า, รีเลย์เสีย, อะไหล่มอเตอร์, อะไหล่ฟันเฟือง, ชุดซ่อม

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2017, 10:32:17 PM 3 พูด-คุย / Volvo / รวมอาการเสียปั๊มน้ำ 850 s60 c/s/v/xc70 s80

อาการ : น้ำหาย น้ำไม่หมุนเวียน วาล์วน้ำไม่เปิด เข็มความร้อนเกินครึ่ง น้ำดันที่ฝา+ทะลัก เป็นสาเหตุทำให้ฝาสูบโก่งตามมา เบื้องต้นให้เช็ควาล์วน้ำ เซ็นเซอร์วัดความร้อนหม้อน้ำ หม้อน้ำ กระป๋องพักน้ำ+ฝาปิด และรีเลย์+พัดลม ขณะสตาร์ทรถให้สังเกตที่สายพานราวลิ้นว่าหมุนปกติมีเสียงดังไหม หรือน้ำที่กระป๋องพักน้ำจะต้องมีการเคลื่อนไหวหากนิ่งปั๊มน้ำอาจไม่หมุน หรือลองบีบท่อน้ำบนจะต้องร้อน+แข็ง+ตึง หรือสังเกตท่อน้ำบนกับล่างว่าร้อนต่างกันมากไหม ถ้าใกล้เคียงกันถือว่าปกติ แต่ถ้าต่างกันมากวาล์วน้ำอาจไม่เปิด

หมายเหตุ : ภาพแทนเป็นปั๊มน้ำ 740
- ปั๊มน้ำควรเปลี่ยนพร้อมชุดสายพานราวลิ้นทุก 1 แสนโล และเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำปีละครั้ง




วอลโว่, volvo, 850, c70, s70, v70, xc70, s80, water pump, เปลี่ยนปั๊มน้ำ, ปั๊มน้ำผุ, เป็นตามด, เสีย, เสื่อม, เสียงดัง, ใบพัดตาย, ไม่หมุน, หลุด, ร่อน, รั้ว, ซึม, ซีลขาด, ลูกปืนพัง

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

วันนี้ผมได้มารับรถ เปลี่ยนลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าที่ศูนย์บริการ volvo(หัวหมาก) ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ service เกี่ยวกับเรื่องอะไหล่สรุปได้ ดังนี้ครับ อะไหล่แท้ volvo จะมาจากแหล่งเดียวกันครับ แต่ราคา และส่วนลดถ้าเป็นร้านธเนศยนต์ และ ต.เหรียญชัย จะได้ส่วนลดมากกว่าศูนย์บริการครับ เนื่องจากร้านดังกล่าวได้มีการดิวกับดีลเลอร์โดยตรงมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ รุ่นทวด ตามสัญญาข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้ในสมัยนั้น ซึ่งศูนย์บริการไม่สามารถลดได้มากเท่ากับร้านค้า แต่จะไปเน้นในเรื่องของงานบริการ การรับประกันสินค้า และการเคลมสินค้าแทนครับ

ส่วนอะไหล่เทียบร้านค้าก็จะสั่งจากแหล่งผลิตอื่นๆ ที่มองว่ามีคุณภาพเทียบเท่าของแท้ หรืออาจเป็นโรงงานเดียวกันที่ผลิตส่งให้กับ volvo(ไม่ตีตรายี่ห้อ) ซึ่งมีราคาไม่แพง สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น และใช้งานแทนที่อะไหล่แท้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากร้านค้ามีการสกรีนมาแล้ว ว่าแหล่งที่มาของอะไหล่เชื่อถือได้แน่นอน เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้คนหันมาเล่น volvo มากขึ้นครับ

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Mx2BXvZpMtI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Mx2BXvZpMtI</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=KiR6HFvX8RM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=KiR6HFvX8RM</a>

cr : XeMODeX Inc

อาการ : วิ่งไม่ออก เร่งไม่ขึ้น รอบเร่งได้ไม่เกิน 2,500(หรือ 20-30 Km/h) เครื่องยนต์สั่น กระพือ เหมือนเดินไม่เต็มสูบ ขึ้นไฟ ETS อาการหนักสุดคือสตาร์ทติดยาก และไม่ติดเลย ส่วนอาการที่เจ้าของกระทู้โดนมากับตัวซึ่งเป็นอาการที่เพิ่งเริ่มเป็นคือ รอบแกว่งนิดๆ ขณะปล่อยคันเร่งเหยียบเบรครอบจะตกลงมาที่ 400 ก่อนที่จะดีดขึ้นมาที่ 800 ทุกครั้ง ที่เห็นชัดเจนคือสตาร์ทเครื่อง เข้า R กับ D ปกติ แต่พอเข้า N รอบเครื่องก็จะตกเดินเบาไม่นิ่ง ไฟ ETS ขึ้น ต้องดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ไฟจึงจะหายครับ

ลำดับการแก้ไขเบื้องต้น :
1. ดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ หากไฟยังโชว์อยู่อีกให้สตาร์ทรถทิ้งไว้จนกว่าเครื่องจะร้อน ให้ดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ไฟจะหายไปชั่วคราว พอรถวิ่งได้สักระยะไฟก็จะกลับมาโชว์เหมือนเดิม รอบจะมีสวิงบ้าง ให้รีบขับเข้าไปที่อู่ หรือศูนย์
2. ถอดล้างลิ้นปีกผีเสื้อ+มอเตอร์+ขั้วไฟที่เสียบกับลิ้นเร่ง(ส่วนใหญ่ดีขึ้นได้ไม่นาน ก็จะกลับมาเป็นอีก)
3. ลบโค้ตที่ศูนย์+อัพเดทซอฟแวร์
4. ซ่อมอู่นอกซ่อมผ่าเปลี่ยนอะไหล่(รับประกัน 2 เดือน ใช้งานจริงประมาณ 1 ปี+- แต่ช่างที่ซ่อมแนะนำถ้าเน้นใช้งานนานๆ ให้เปลี่ยนใหม่ดีกว่า)
5. เปลี่ยนมือสอง(ต้องเทสหาตัวที่เข้ากันได้ ลองไม่ต่ำกว่า 5 ตัวกว่าจะใช้งานได้ หรือให้เช็คสีจากสติ๊กเกอร์ เช่น สีขาวรุ่นเก่า 99-02 สีเหลืองรุ่นใหม่ 02 up)
6. เปลี่ยนใหม่ที่ศูนย์(รับประกัน 1 ปี) ศูนย์จะเปลี่ยนมีลิ้นปีกผีเสื้อ+ปะเก็น+สายรัดท่อ, ซอฟแวร์ และค่าแรง ส่วนตัวเก่าต้องคืนศูนย์ อายุการใช้งานจริงอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนโล+-

หมายเหตุ
- ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าตัวนี้จะติดตั้งอยู่บริเวณใต้ท่อร่วมไอดี ด้านหลังพัดลมดูดหม้อน้ำ ตอนเปลี่ยนช่างจะถอดเฉพาะชุดพัดลมออกเท่านั้น
- หากเซ็นเซอร์หม้อลมเบรคเสียไฟ ETS จะติดๆ ดับ ด้วยเช่นกัน
- Euro รับซ่อม 3,000.- ประกัน 2 เดือน ไม่หายยินดีคืนเงินเต็มจำนวน
- A Volvo รับเปลี่ยนมือสอง(ญี่ปุ่น) 8,000 ประกัน 1 เดือน ***ใช้วิธีดูดซอฟแวร์ตัวเก่าติดรถ มาใส่ทับตัวใหม่มือสองญี่ปุ่นที่เปลี่ยน พื้นฐานฮาร์ดแวร์เหมือนกัน แต่ซอฟแวร์ต่างกัน***
- ปรึกษากับทางธเนศยนต์แนะนำให้ติดต่อศูนย์โดยตรงครับ
- ต.เหรียญชัย เฉพาะลิ้นปีกผีเสื้อเป็นราคาแลกเปลี่ยนตัวใหม่อยู่ที่ 10,890.-
- ราคาล่าสุดศูนย์วอลโว่หัวหมาก(เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ : Wearnes Automotive) ลิ้นปีกผีเสื้อ 12,807.9 + ปะเก็น 235.4 + ลงซอฟแวร์ 2,589.4 + ค่าแรง 1,626.4 = 17,259.10(รวม vat) ***สำหรับรถที่วางเครื่องเดิมมาใหม่จากญี่ปุ่น/เชียงกง เมื่อเปลี่ยนลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าแล้วอาจเจอปัญหาเมื่อหลังลงซอฟแวร์แล้ว เครื่องยังคงสวิง และกระพืออยู่ สาเหตุมาจากซอฟแวร์ที่ลงอาจมีความแตกต่างจากของเดิม ตรงนี้ทางศูนย์จะเขียนรายงานไปยังเมืองนอก เพื่อให้รีโมทเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ครับ อาจกินเวลาเป็นเดือนครับ***
- อู่ช่างเสนเปลี่ยนตัวใหม่เบิกศูนย์ พร้อมลงโปรแกรมจบอยู่ที่ 17,000.-




วอลโว่, Volvo, S60, C70, S70, V70, XC70, S80, ลิ้นปีกผีเสื้ออิเล็กทรอนิกส์, กล่องลิ้นปีกผีเสื้อ, วาล์วปีกผีเสื้อ, เรือนปีกผีเสื้อ, ปีกผีเสื้อไฟฟ้า, ลิ้นเร่ง, ลิ้นกลม, ผิดปกติ, เสื่อมสภาพ, ไฟ ETS โชว์, ETM มีซอฟแวร์, ETA ไม่มีซอฟแวร์รับคำสังจาก ECU, ขึ้นติดๆ ดับๆ

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

ธเนศยนต์ : แท้ volvo ทั้งหมด มีชุดสายพานราวลิ้นมาพร้อมลูกรอก 2 ตัว(ดัน+ตาม) 6,370-25+7 = 5,112 + สายพานหน้าเครื่อง 1,590-25+7 = 1,276 + ลูกรอก+ขาหน้าเครื่อง 3,030-25+7 = 2,432.-

รวม 8,820.- ***มีของเทียบยี่ห้อไอน่าเฉพาะลูกรอกหน้าเครื่อง 500 ถ้าลูกรอก+ขาอลูมิเนียม 1,500.-***

ต.เหรียญชัย : แท้ volvo ทั้งหมด มีชุดสายพานราวลิ้น 1,800 + ลูกรอกราวลิ้นตัวดัน 2,235 + ลูกรอกราวลิ้นตัวตาม 2,090 + สายพานหน้าเครื่อง 1,300 + เฉพาะตัวลูกรอก 2,000

รวม 9,425.- ***มีของเทียบยี่ห้อไอน่าลูกรอกราวลิ้น 2 ตัว(ดัน 1,650 + ตาม 1,000) + สายพานหน้าเครื่อง 880 + ลูกรอก+ขาหน้าเครื่อง 1,600 (เฉพาะตัวลูกรอก 800)***

อู่ช่างเสน : แท้ volvo ทั้งหมด มีชุดสายพานราวลิ้นมาพร้อมลูกรอก 2 ตัว(ดัน+ตาม) 7,000.- สายพานหน้าเครื่อง 1,620+7 = 1,734 + ลูกรอก+ขาหน้าเครื่อง 3,130

รวมเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 1,1864.- ***ไม่รวมค่าเปลี่ยน 1,000++***

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

สาเหตุที่เปิดประเด็นนี้สืบเนื่องมาจากผมได้ซื้อซีลเพลาขับของแท้ volvo v70 p1 2.3t 00 จากร้าน ต.เหรียญชัย หรือธเนศยนต์ เพื่อนำไปให้ที่อู่เปลี่ยนล้อหน้าซ้ายตัวนอกแล้วคิดค่าแรง 300.-/ตัว หลังจากเปลี่ยนเสร็จทดลองขับปรากฎว่าจุดบริเวณที่เปลี่ยนซีลมีน้ำมันเกียร์ไหลออกมาหยดลงพื้นมากกว่าก่อนเปลี่ยน จึงได้กลับไปให้ที่อู่เพื่อเช็คพบว่าซีลวิ่งเข้าไปด้านในแทนที่จะอยู่บริเวณปาก ช่างแจ้งว่าตัวซีลอาจจะไม่ใช่ของแท้ที่ออกมาจากศูนย์ เพราะมาจากหลายแหล่งผลิตเลยมีผลเกี่ยวกับการกดทับของขอบซีลยางกับบริเวณปาก ผลคือทำให้ซีลหมุนตามเพลาขับวิ่งเข้าไปด้านใน ทำให้น้ำมันไหลออกมา หรือจะพูดง่ายๆ ว่าซีลจะต้องแนบแน่นเข้ากับวงช่องพอดี และไม่ขยับน้ำมันจึงจะไม่ไหลออกมา หลังจากเช็คคราบน้ำมันประกอบกลับ ขับกลับมาถึงบ้านก็ยังมีคราบน้ำมันไหลอยู่เหมือนเดิม

สันนิษฐานสาเหตุที่น้ำมันเกียร์ยังไหลออกมาไว้ ดังนี้
1. เช็คก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์ว่าตอน Cold กับ Hot ตรงกันไหม ***ดีสุดให้วัดตอนขณะสตาร์ทเมื่อเครื่องร้อนแล้ว***
2. อาจต้องเช็ดคราบน้ำมันที่ซีลยาง บริเวณช่องใส่ และหัวเพลาด้วยแอลกอฮอล์ให้เกลี้ยงจนสะอาด
3. ตอนประกบซีลยางเข้าช่องใส่จะต้องเข้าพร้อมในแนวเดียวกัน ***อาจต้องใช้กาวปะเก็นทาขอบซีลยางบางๆ ประกบทิ้งไว้ช่วยยึดให้ซีลอยู่กับที่ไม่ให้ขยับ***
4. ตอนใส่หัวเพลาจะต้องใส่ตรงๆ ให้เข้าตัวล็อคด้านใน อย่าให้บ่าไปชนซีลที่ประกบไว้ผิดรูป
5. เมื่อประกอบเข้าเสร็จเรียบร้อยแล้วให้สตาร์ทรถทิ้งไว้สัก 30 นาที เพื่อให้ขอบซ๊ลยางร้อนแล้วแนบยึดกับช่องที่ใส่ ก่อนนำไปทดสอบใช้งานจริง

คือผมได้สั่งซีลเพลาขับแท้มาไว้อีกตัวสำหรับเปลี่ยนล้อขวาตัวในด้วย แต่รอบนี้คงจะต้องลงมือทำเองเพื่อแก้ซีลเพลาขับล้อซ้ายตัวนอกด้วย เพื่อหาคำตอบว่าสาเหตุจริงๆ แล้วเกิดจากอะไรกันแน่ระหว่าง 1.ซีลแท้ที่ร้าน 2.ต้องเปลี่ยนใช้ซีลแท้ของศูนย์ หรือ 3.ขั้นตอนการใส่ แล้วจะนำคำตอบมาแจ้งพร้อม คลิป vdo อย่างละเอียดมาให้ชมต่อไปเพื่อหายข้อสงสัยครับ

หมายเหตุ
- ซีลเพลาขับแท้ที่อู่เบิกจากศูนย์ volvo โดยตรงอยู่ที่ 1,477.-/ตัว

- ซีลเพลาขับแท้ volvo ที่ผมสั่งจาก ต.เหรียญชัย หรือธเนศยนต์ อยู่ที่ 1,255.-/ตัว ***ส่วนต่างจากอู่อยู่ที่ 222.-/ตัว ไม่รวมค่าแรงติดตั้ง***

- ผมเล่นรถ volvo มี 240 740 850 960 และ v70 มากว่า 10 ปี ซื้ออะไหล่หลักๆ จาก ต.เหรียญชัย และธเนศยนต์มานาน มีทั้งแท้ และเทียบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจำเป็น แหล่งที่มา และโรงงานผลิตเป็นสำคัญหากศึกษาจริงๆ ก็จะเข้าใจแหล่งที่มามากกว่าจำเพียงแค่ว่า "แท้ศูนย์ volvo" เท่านั้น ซึ่งสามารถสอบถาม และขอคำแนะนำกับทางร้านผู้ขายได้ครับ เพราะมีประสบการณ์ทางด้านอะไหล์ volvo โดยตรงไม่ต่ำกว่า 40 ปี

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

อาการ : สั่นเข้า D ตอนเหนียบเบรค ออกตัวเข้าถึงพวงมาลัย คอนโซน และเบาะ รวมถึงเสียงต่างๆ รบกวน หากใช้รอบยิ่งสูงก็จะสั่นสะท้านมากขึ้น หนักสุดคือศูนย์เครื่องกับเกียร์ไม่บาลานซ์ทำให้อายุเกียร์สั้นไปไว เนื่องจากยางแท่นเครื่องมีหน้าที่ซับลดแรงสั่นสะเทือน แรงบิด และแรงกระชากระหว่างเครื่องยนต์ เกียร์ กับห้องโดยสาร หลังเปลี่ยนครบทั้ง 5 จุดเรียบร้อยแล้วจะนิ่งเงียบเห็นได้อย่างชัดเจน หรือพูดง่ายๆ ว่าแทบไม่รู้สึกเลยว่ารถสตาร์ทเครื่องอยู่ หลังทดสองขับแล้วจะทำให้เรารักรถมากยิ่งขึ้นในสมรรถนะของมันครับ

หมายเหตุ :
- ยางแท่นเครื่องไฮดรอลิกส์ ของแท้ volvo ตัวหน้า (หน้าหม้อน้ำ) 3,805.-  ของเทียบตรานกผลิตโรงงานเดียวกันคุณภาพเท่าของแท้แค่ไม่มียี่ห้อ volvo 2,500.-
***ตัวนี้ก่อนเปลี่ยนช่างจะถอดขั้วลบที่แบตออก จากนั้นจึงถอดพัดลมหม้อน้ำ+คลายน็อตยางหิ้วเครื่องบนตัวนอก+คลายน็อตยางกันกระชากเกียร์ และคลายน็อตคานคู่หน้าออก ขึ้นฮ้อยทำจากข้างบนและข้างล่าง ใช้ค้ำยันเครื่องให้ลอย และตอนใส่อย่าเพิ่งขันน็อตยางแท่นเครื่องตัวหลังให้แน่น เพื่อให้ตัวหน้าสามารถขยับเข้าที่ได้***

- ยางแท่นเครื่องไฮดรอลิกส์ ของแท้ volvo ตัวหลัง (ใต้ท่อไอเสีย) 3,410.-  ของเทียบตรานกผลิตโรงงานเดียวกันคุณภาพเท่าของแท้แค่ไม่มียี่ห้อ volvo 2,300.-
***ช่างจะเริ่มเปลี่ยนจากตัวนี้ก่อนเพราะง่ายสุดทำจากข้างบน และข้างล่างใช้เวลาไม่นานครับ ตัวนี้จะขันแน่นอีกทีตอนใส่ยางแท่นเครื่องตัวหน้าเข้าที่เรียบร้อยแล้วครับ***

- ยางแท่นเครื่องใต้มู่เลย์ ของแท้วอลโว่ 4,815.- ตัวนี้เปลี่ยนกับช่างเสน่ห์ที่อู่เลยครับ ไม่ได้ซื้อมาเนื่องจากหน้างานดูแล้วมันทรุด+แตกเลยสั่งเปลี่ยนทีเดียวเลยครับ
***ตัวนี้ตอนเปลี่ยนต้องถอดล้อหน้าขวาออก คลายน็อตเปิดแผ่นบังโคลนออกนิดนึงครับ, เช็คราคามาให้แล้วครับ ยางแท่นเครื่องใต้มู่เลย์ ของแท้ volvo 4,093.-  ของเทียบตรานกผลิตโรงงานเดียวกันคุณภาพเท่าของแท้แค่ไม่มียี่ห้อ volvo 1,750.-***

- สอบถาม ยางกันกระชากเกียร์ มาให้ด้วยครับของแท้ volvo 2,456.-  ของเทียบตรานกผลิตโรงงานเดียวกันคุณภาพเท่าของแท้แค่ไม่มียี่ห้อ volvo 950.-

- ยางแท่นเครื่องมีทั้งหมด 5 จุด : ยางแท่นเครื่องตัวหน้า(หม้อน้ำ), ตัวหลัง(ไอเสีย), ใต้มู่เล่ย์, ยางกันกระชากเกียร์ และ ยางหิ้วเครื่องตัวบน(ตัวนอก-ตัวใน) ***ตัวสีน้ำเงินคือตัวที่เสียบ่อยครับ***

- หลังจากเปลี่ยนยางแท่นเครื่องใหม่ครบทั้ง 5 จุดเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมไปตั้งศูนย์อีกครั้งด้วยนะครับ




วอลโว่ 850, s60, s70, v70, xc70, s80, เครื่องเอียง, ยางไฮดรอลิกส์น้ำมันซึม, ยางรองเครื่องยนต์, ยางแท่นเครื่องเสื่อม, เสีย, ทรุด, แข็ง, ร้าว, แตก, ฉีกขาด, ของใหม่, แท้ volvo, มือสอง, ของเทียบ, โรงงานผลิตเดียวกัน

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

อาการ : วิ่งทางตรงใช้ความเร็วที่ 80-100 ก็จะเริ่มมีอาการสั่นเข้ามาถึงพวงมาลัยคนขับ ถ้าปล่อยคันเร่งออกช่วงความเร็วเดียวกันก็จะไม่สั่น แต่ถ้าแตะคันเร่งอีกครั้งก็จะสั่นเหมือนเดิม อาการอื่นนอกจากนี้ก็จะมีเสียงดัง "กึก" ทั้งขณะออกตัว ช่วงเลี้ยว และเบรค ถึงแม้ว่าได้เปลี่ยนยางถ่วงล้อตั้งศูนย์ ยางเบ้าโช๊ค+ยางกันกระแทก ยางแท่นเครื่อง และบูชลูกหมาก-ปีกนกมาใหม่แล้วก็ตาม แต่ถ้าวิ่งความเร็วต่ำกว่า หรือสูงกว่านี้ไม่เป็นนะครับ

สาเหตุ :
- กรณีสั่นที่ความเร็วใดความเร็วหนึ่ง น้อย หรือมากกว่านี้ไม่เป็น เบื้องต้นให้เช็คลูกปืนล้อ ยาง ถ่วงล้อ และตั้งศูนย์ก่อน
- ถัดมาเช็คบูชลูกหมาก-ปีกนก ยางรองแท่นเครื่อง และแท่นเกียร์
- กรณีสั่นสะท้านจนเข้ามาถึงคนขับ และมีอาการดัง "กึก" ขณะเลี้ยวสุด หรือเบรค ส่วนใหญ่มาจากเพลาขับ(ด้านขวา ลูกปืนด้านในแตก / เพลาหัวในที่ติดกับเกียร์) สามารถถอดซ่อม หรือเปลี่ยนใหม่ได้ แนะนำให้ซ่อมทั้งเส้นเลยจะดีกว่า
- ธเนศยนต์ และ ต.เหรียญชัย แท้ตัวซ้าย 15,380.- ส่วนตัวขวาอยู่ที่ 17,245.- เป็นราคาตีเทิร์นซากเก่า ต้องถอดของเก่าเพื่อมาแลกเปลี่ยนซื้อของใหม่ไปครับ

- สุดท้ายมาจบแอสโก้ ออโต้คาร์ (aasko auto car) ซ.สวรรค์วิถี ถ.สุทธิสารวินิจฉัย มาถึง 8.00 น. เสร็จ 12.00 น.พอดี อยู่ดูตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนรื้อกับใส่ใช้เวลาแปปเดียว แต่ตอนประกอบหัวเพลาทั้งเส้นจุดนี้ต่อข้างจะใช้เวลานานหน่อยครับ ช่างจะเช็คของเก่าอย่างละเอียดทั้งเส้นไม่ว่าจะหัวเพลา ก้าน ยางถ่วง ฟันเฟือง ยอย ลูกปืน(เปลี่ยนใช้ใหญ่ขึ้นนิดนึงประมาณ 0.5 มิล) จารบี ยางหุ้มเพลา แหวนรัด ฯลฯ ทำเองหมดจบทุกขั้นตอน ที่นี่จะทำแต่เพลาขับหน้าโดยเฉพาะ ทุกรุ่น ทั้งยุโรป และญี่ปุ่น ส่งตามศูนย์ และอู่ทั่วประเทศ หัวบิ้วหรือโอเวอร์ฮอล(ของแท้) ข้างละ 5,900.- หัวใหม่(ของสิงคโปร์) ข้างละ 6,400.- ค่าแรงข้างละ 300.-(ปกติไม่ได้รับเปลี่ยน นอกจากลูกค้าไม่ได้ผ่านศูนย์ หรืออู่มา) รับประกัน 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสามารถนำบิลใบเสร็จไปหักลดหย่อนได้ด้วยครับ ***เห็นช่างแจ้งว่า รุ่น xc 90 และรถที่ขับ 4 จะทำยากกว่ารุ่นอื่นๆ เพราะเพลา และก้านใหญ่ ตอนรื้อ ถอดประกอบ และใส่จะทำยากกว่าปกติครับ***

หมายเหตุ : ***คลิกที่ภาพเพื่อขยาย***
- ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง : อาการยางหุ้มเพลาตัวในล้อฝั่งขวาขาด จารบีทะลักไหลกระเด็นเต็มซุ้ม volvo v70




วอลโว่, volvo, 850, s60, c70, s70, v70, xc70, s80, อาการสั่นที่ 100, หัวเพลาตัวในติดเครื่อง, ตุ๊กตาเพลากลาง, เพลาตัวกลาง, เพลาหลวม, หัวเพลาตัวใน, ตัวติดเกียร์, หัวเพลาเทียบยี่ห้อ gsp อเมริกา, หรือยี่ห้อ mettali อิตาลี, ของแท้ขายทั้งเพลา, หรือทั้งเส้น, 1 ข้างมี 2 หัว, ตัวนอกกับตัวใน

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

GPS สเปซวากอนแบตบวมจนฝาหลังปริ(ตัวนี้จะต่อเสียบเก็บไว้ที่เกะ) เปิดใช้งานได้ตามปกติ ได้โทรเช็คกับศูนย์มิตซูออโต้ซิตี้ ศรีนครินทร์ สรุปแนะนำให้ถอดตัวเครื่องมาเปลี่ยนแบตได้ใหม่ที่ ศูนย์ M-Tech Audio ก่อนถึงอ่อนนุช 25(วัดทองใน) ซึ่งจะเป็นศูนย์ที่ดูแลเกี่ยวกับ Alpine โดยตรงครับ ถ้าเราผ่านศูนย์มิตซู ทางศูนย์ก็จะมาส่งที่เดียวกันอยู่แล้วครับ ส่วนเรื่องราคาแบตอยู่ที่ 963.- อัพเดทซอฟแวร์ 900.- และรับประกัน 90 วันครับ ***ปล.ราคานี้รวม vat ออกบิลในนามบริษัทนะครับ, หรือหากนำไปเปลี่ยนแต่แบตที่ร้านอมรจะอยู่ที่ 250.- ครับ***




Space Wagon, 2.4 Mivec, GPS Alpine, เครื่องเสียง Alpine, วิทยุติดรถยนต์, วิทยุแอลพาย, แบตเสื่อม, แบตเตอร์รี่บวม, ใช้งานไม่ได้, ชาร์จไฟไม่เข้า, ฟิวส์ที่จุดบุหรี่ขาด, เปิดเครื่องไม่ได้, เปลี่ยนแบต, ราคาแบต, ซื้อที่ไหน, แนะนำร้านซ่อม, ศูนย์มิตซู, ร้านข้างนอก, ศูนย์เอ็มเทค ออดิโอ, เอ็มเทคอ่อนนุช, M-Tech On-Nut

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

หลายๆ คนก็คงจะเคยใฝ่ฝันเหมือนกันว่าถ้าได้รถ body ใหญ่ๆ หรูๆ อย่าง a31, e36, w201, 960 แล้วได้เครื่องแรงๆ อย่าง 1-2 jz turbo มาวางด้วยแล้วมันจะดึง แรงขนาดไหน? ยิ่งเห็นห้องเครื่องสวยๆ มันวาวโล่งๆ สีสันโดนใจ อินเตอร์เท่ๆ turbo ลูกใหญ่ๆ เสียงเพราะๆ ด้วยแล้ว ถ้าได้มีโอกาสต้องจับจองมาเป็นของเราให้ได้อย่างแน่นอน บางคนขอแค่ vvti หรือตัวธรรมดาก็ได้ไม่ต้องถึงขั้น turbo ก็ ok แล้ว ให้ได้ขึ้นชื่อว่า jz ก็เพียงพอ บวกกับรถมือสองวางเครื่องติดแก๊สในท้องตลาดมีให้เลือกเพียบ ราคาสุดเร้าสามารถเอื้อมจับกันได้ในราคาหลักหมื่น หลักแสน แต่จะมีใครบอกเหตุผลที่ขายรถเพราะปัญหาที่ว่า "ไม่จบ" บ้างคงไม่มี ส่วนใหญ่เราจะได้ยินคำคุ้นหู เช่น รถพร้อมใช้ขับมันส์ แรงประหยัดบ้าง ทำมาจบหมดแล้วบ้าง เพิ่งวางเครื่องมาสดใหม่ได้ไม่กี่เดือนแล้วบ้าง แล้วก็อีกหลายๆ เหตุผลเพื่อให้รถขายได้หมดปัญหาจากเรา คนซื้อรับภาระต่อไปแทน

ผมเลยลองเอาข้อมูลอีกด้านของคนที่พูดคุยกันในหลายๆ คลับ ทั้งจากช่างที่วาง คนที่ใช้งาน ข้อคิดจากเซียนแต่งรถ รวมถึงประสบการณ์ตรงที่ได้สัมผัสมาเพื่อรวบรวม "ปัญหาที่เจอมาเหมือนๆ กันหลังจากผ่านจุดนั้นมาแล้ว" ที่คนมักจะไม่ค่อยได้มาพูดถึงกัน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทั้งเก่า และเข้ามาใหม่ที่ยังเล่นอยู่สอบถามปัญหาทั่วไปตามปกติ ผมสรุปสั้นๆ มาให้ได้ดูเป็นแนวทางกันครับ

ข้อเสีย :
- อู่/ช่าง ---> ช่างไม่มีประสบการณ์ ประวัติไม่ดี ดูเครื่องไม่เป็น ของไม่ครบไม่ตรง ส่งงานต่อ งานแก้ตามตัวยาก(ไม่ได้ตังค์) ทำไม่จบ งานงอก งบบาน ***ส่วนใหญ่ช่างที่สนิทที่ไว้ใจมักทำพิษ***
- เครื่อง ---> วายสายมาไม่ครบ ไม่ทราบอาการเสีย ปัญหากล่อง ecu ขึ้นฟ้องโคดแก้ไม่หาย ระบบเดิมใช้งานไม่ได้ รวน สตาร์ทยาก ห้องเครื่องแน่น ระบายอากาศไม่ดี ปาดแคร้งหลบฐาน ความร้อนขึ้น มาตรวัดเพี้ยน ชาร์ปละลาย ถ้าติดแก๊สมาพร้อมแก้ปัญหายิ่งยาก แก้ 1 จุด หมดเงินไป 10 จุดก็มี บางเคสถึงขั้นขายรถทิ้งไปเลยก็มีให้เห็น
- แอร์ ---> เปิดแอร์รอบตก ดึงเครื่อง ตู้แอร์ไม่ได้เปลี่ยน แอร์ไม่ตัด คอมไม่ทำงาน ไม่ล้างระบบแอร์น้ำมันดำคอมพังเปลี่ยนคอมบ่อย
- เกียร์ --->แท่นเกียร์ทรุด ตำแหน่งไม่ตรง กระตุก เกียร์ไม่เข้า-ไม่เปลี่ยน
- ช่วงล่าง ---> หน้าหนักยางแท่นเครื่องบูชลูกหมากไปไว หน้ายางกว้าง+โช๊คนิ่มไป เบรคไม่พอเอาไม่อยู่ เฟืองท้ายไม่แมตกินน้ำมัน ออกตัวอืดปลายไม่ไหล ท่ออั้นวิ่งไม่ออกท่อโล่งดังไป ตัดต่อเพลากลางไม่บาลานซ์ ไม่ได้เซ็นเตอร์ สั่นสะท้าน หอน ยางตุ๊กตาขาด ยอยแตก ตัวถังล้าบิดเสียทรง

ข้อดี :
- ถ้าได้อู่ดี ประวัติ ok (หายาก) งานละเอียด ทำจบในที่เดียว ประกัน รับเคลม ใช้งานยาว ร้านซ่อมรองรับมีเพียบ
- เลือก body รถได้ตามใจชอบทั้ง benz bmw volvo ฯลฯ ไม่ต้องจ่ายแพงก็ขับได้เหมือนกัน
- ถ้าได้เครื่องสดใหม่ วิ่งน้อย สภาพดีวาง เปลี่ยนของภายใน (ซีล หัวเทียน timing สายพาน ลูกรอก ไส้กรอง ของเหลว) วายสายครบ แก้โช๊ค สปริง เบรค เฟืองท้าย ตัดต่อเพลา ตั้งศูนย์มาดี ไอดีไอเสีย หม้อน้ำเก็บมาหมดทำแล้วจบ บอกได้คำเดียวสั้นๆ ว่า "ใช้ลืม" ครับ
- อัตราเร่งแซง วิ่งทางใกล้-ไกลดี เบา ทน นิ่ง เงียบ ติดแก๊สประหยัด ดูแลง่าย อะไหล่มีเยอะ ราคาไม่แพง
- ถ้าได้ต่อยอดแต่งเครื่อง เปลี่ยนท่อ เก็บสาย ย้ายแบต สีสันสะดุดตา สวยๆ โล่งๆ เอามาโชว์กันได้เลยครับ ไม่มีอายเพื่อนแน่นอน ยกให้เราเป็นไอดอลเลยก็มี
- ร้าน อู่ สำนักแต่ง คลับรถ ได้โชว์ผลงานดึงคนเข้ามา มีงานซ่อม วาง ปรับแต่ง แก้ จัด meeting ขายอะไหล่ ของที่ระลึกได้

     "ความเห็นส่วนตัวจากที่เคยใช้ volvo วางทั้ง 1-2j และ volvo เครื่องเดิมๆ มาเกือบ 10 ปี ถ้าพูดตรงๆ ผมว่าเครื่องเดิม (overhaul) ok กว่าเยอะครับ ที่เห็นชัดสุดคือทน จบ ใช้งานนาน คุ้มค่า ปัญหาน้อยกว่า อาจจะวิ่งไม่ปรู๊ดปร๊าดเท่าแต่ไม่ต้องมากังวลเรื่องระบบไฟ วายสาย กล่อง รอบ แอร์ ความร้อน เกียร์ เฟืองท้าย เพลา ไมล์ งานดัดแปลงทั้งหลายแหล่ และอื่นๆ อีกเพียบ แต่ถ้าถามว่าคนที่ทำแล้วจบมีไหม "มีแน่นอน" ครับแต่ส่วนน้อย คนที่ทำแล้วจบกว่าจะสมบูรณ์ต้องลองผิดลองถูกผมบอกได้เลยว่าหมดไปไม่น้อย(ต้องมีเวลาเยอะ ซ่อมรถเป็นงานอดิเรก เงินถึง) และที่บอกว่าสมบูรณ์ บอกเลยครับได้แค่ 80% เท่านั้น ให้จำไว้เสมอว่ารถดัดแปลงไม่มีอะไร 100% เหมือนออกมาจากโรงงานอย่างแน่นอน พอใช้ๆ ไปมีปัญหาเข้ามาให้แก้ตลอด พอรำคาญเริ่มเบื่อรถหมดสภาพก็ขายทิ้ง กลับมาใช้รถเครื่องเดิมๆ ตรงรุ่น ดังนั้นคนที่พอจะมีเงินก็อยากจะซื้อรถที่วางเครื่องมาใช้ หรือซื้อรถมาวางเครื่องเอง "อยากให้เหมือนคันที่สมบูรณ์เหมือนที่เขาเอามาโชว์ๆ กัน (ตามกระแส)" แต่ในความเป็นจริง "ไม่ใช่" ไม่เป็นอย่างที่คิดพอใช้ๆ ไปเริ่มรู้แจ้งเห็นจริง รถวางเครื่องในเว็บขายทิ้งแทบทุกวัน ซึ่งรถที่มาปล่อยขายย่อมรู้ดีถึงปัญหาอยู่แล้วตอนขายไม่มีใครมาบอกกันหรอกครับ ขายได้หันกลับไปใช้รถเดิมๆ หรือไม่ก็ออกใหม่ ส่วนคนที่เก็บไว้ยังโชว์เรียกแขกได้อยู่ รับงานวาง-ซ่อม-แก้ ขายอะไหล่ได้เรื่อยๆ ตามประสา "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" ครับ

     คนที่ยังเล่นรถอยู่มีเพื่อนสนใจศึกษาอยากเล่นบ้างก็จะบอกแต่ด้านดีอย่างเดียว(ต้องการโชว์) ไม่ได้บอกปัญหาที่ตัวเองเจอทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอก ถึงกับมองหน้ากันไม่ติดเลยก็มี ส่วนคนที่เคยผ่านมาแล้วก็บอกทุกเม็ดแบบไม่มีกั๊ก แค่มองตาก็รู้ว่าคิดอะไร เนื่องจากผ่านประสบการณ์มาเยอะ เจอมาเยอะ โดนมาเยอะ ซื้อรถแน่นอนไม่วางเครื่อง ไม่ติดแก๊ส ไมล์ไม่เยอะ(ไมล์เยอะแต่ดูแลถึงก็ ok ครับ) ยิ่งมือแรกได้ยิ่งดี ดูรถเป็นเช็ครถได้จะแนะนำเราได้เป็นอย่างดีครับ อีกทั้งในชีวิตประจำวันคงไม่มีใครอยากมาใช้รถไปซ่อมไป ไม่ต้องทำมาหากินกันพอดี "เจ็บแต่จบ ดีกว่าเจ็บเรื่อยๆ" ครับ เทคนิคซื้อรถให้ดูรุ่นรถที่เราชอบแล้วมั่นเข้าดูหน้าเว็บทุกวันผมบอกได้เลยว่าเจอคันที่ใช่แน่นอน ราคาไม่แพง ใช้กันยาวๆ ได้เลยครับ แต่ของดีราคาถูกจะอยู่ไม่นานปิดการขายไว ดังนั้นการตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าใช่นัดดูรถวางมัดจำเลยครับ จบกว่าวางเครื่องต่างสัญชาติแน่นอนครับ"





เตรียมตัวก่อนวางเครื่อง, วางเครื่องข้ามตระกูลรถ, วางเครื่องข้ามสัญชาติ, ปัญหาเครื่อง jz uz sr rb, วาง j ไม่จบ, วางเครื่องไม่จบ, ทำแล้วไม่จบ, วายสายไม่ครบ, ไมล์ใช้งานไม่ได้, ไมล์ความเร็วไม่ตรง, เปิดแอร์รอบตก, แอร์ไม่ตัดคอมไม่ทำงาน, ฟ้องโค๊ด, ความร้อนขึ้น, เบรคไม่พอเอาไม่อยู่, โช็คนิ่มไป, ออกตัวอืด ปลายไม่ไหล, ท่ออั้นวิ่งไม่ออก, ท่อดังโล่งไป, ระบบไฟใช้งานไม่ครบ, ข้อคิดก่อนเปลี่ยนเครื่อง, ความแรงที่ต้องเข้าอู่บ่อย, จบที่ขายทิ้ง

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

สืบเนื่องจากวันที่ 28 พ.ค. 59 ได้นำรถเข้าไป ตรอ.กษิรา แถวพัฒนาการ เพื่อตรวจสภาพต่อ พรบ. ภาษีปี 60 ปกติถ้าต่อเสร็จแล้วน้องเขาจะเอาเล่มมาส่งให้ที่ออฟฟิศครับ วันที่ 31 พ.ค. ผ่านไปแถวนั้นพอดีแวะรับเล่มน้องที่ ตรอ. แจ้งว่าต้องมีใบตรวจถังแก๊สรับรองจากวิศวกรด้วย(ตรวจทุก 5 ปี) ให้ไปตรวจที่ ตรอ. lpg ngv กลับมาถึงบ้าน โทรเช็คที่อะติกเกอร์พัฒนาการที่เคยเปลี่ยนหม้อต้ม วาล์ว ท่อยางว่าขอใบรับรองถังแก๊สได้ไหม ทางอะติกเกอร์แจ้งว่าต้องติดตั้งถังแก๊สจากอะติกเกอร์เท่านั้นจึงจะออกใบวิศวกรให้ได้ จึงได้โทรกลับไปที่ ตรอ.กษิรา เพื่อขอคำแนะร้านที่รับตรวจ plg ทางร้านแนะนำร้าน พีพี ออโต้แก๊ส อยู่ปากซอยพัฒนาการ 19 จึงได้โทรเข้าไปที่ร้านทางร้านแจ้งว่าค่าตรวจ+ออกใบวิศวกรอยู่ที่ 700.-

วันที่ 4 มิ.ย. ได้นำรถไปที่ พีพี ออโต้แก๊ส ตรวจสภาพพบว่า ตัวถังแก๊สผลิตเมื่อเดือน 4 ปี 06 ปัจจุบันอายุถังเกิน 10 ปีแล้ว และถังเป็นวาล์วแบบรุ่นเก่าขนส่งไม่อนุญาตให้นำมาใช้งานในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นอันตรายไม่มีระบบตัดแก๊สอัตโนมัติเมื่อแก๊สรั่ว ทางร้านแจ้งว่าต้องเปลี่ยนถังแก๊สเป็นไซส์เดิมวาล์วรุ่นปัจจุบัน แนะนำ Magnate 64 ลิตร + ติดตั้งประกัน 1 ปี + เติมแก๊สให้ 200 + ใบรับรองวิศวกร = 7,000.- รูดบัตรได้ไม่มีชาร์จ ได้พูดคุยกับลุงที่มาเปลี่ยนถังแก๊สที่ร้านเหมือนกัน ของลุงเป็นกระบะตอนเดียววาง SR เปลี่ยนถังแก๊ส(54 ลิตร) ใต้ท้องรถ ของลุงถัง 8 ปีได้ครับ แต่ต้องเปลี่ยนใหม่เพราะวาล์วเป็นรุ่นเก่า ลุงแกอยู่วัดปากบ่อ ผมอยู่อ่อนนุช 31/1 แกบอกว่าไล่ขับมอเตอร์ไซค์เช็คราคาเส้นอ่อนนุช ศรีนครินทร์ และพัฒนาการราคาอยู่ที่หมื่นหนึ่ง ร้านพีพีถูกสุดอยู่ที่ 6,000.- ครับ สรุปผมก็ทำกับที่ร้านจนเสร็จ นำชุดใบรับรองวิศวกรที่ได้ไปให้ที่ ตรอ.กษิรา เพื่อต่อภาษี แต่ยังไม่จบแค่ต่อภาษีนะครับ ยังต้องมอบอำนาจให้ ตรอ.กษิรา แจ้งขนส่งเปลี่ยนถังลงเล่มอีกสเต็ปเพิ่มอีก 2,500.- + เติมแก๊สเพิ่มอีก 450.- จบงานนี้หมดไป 9,950.-

หมายเหตุ ***คลิกที่ภาพเพื่อขยาย***
- ถังแก๊สที่ครบกำหนดอายุจะมีแก๊สค้างในถังไม่สามารถปล่อยออกได้ตามปกติโดยทั่วไป ร้านรับซื้อของเก่าไม่รับซื้อ บริษัทที่ผลิตถังก็ไม่รับซื้อเช่นกัน ทำให้ถังแก๊สที่ถอดออกไว้ที่ร้านมีเป็นจำนวนมาก และยังหาทางกำจัดยังไม่ได้ในปัจจุบัน บอกช่างแล้วไม่เอากลับไปรูดบัตรแป๊ปเดียวกลับมาเอารถพอขับถึงบ้านดันมีมาอีกถังต้องหาที่กำจัดอีกแล้วเรา
- เคสนี้เป็น volvo 240 1j ใช้แก๊สอย่างเดียวหลังจากช่างเปลี่ยนถังใหม่แล้ว ช่างจะเอาถังแก๊สเดิมของเราใส่หลังรถย้ายท่อจ่ายแก๊สมายังถังเก่า(ผมเติมไว้เต็มถังใช้ไปนิดเดียวเสียดายมาก) เพื่อให้สามารถขับไปเติมแก๊สถังใหม่ได้ก่อนครับ
- ถังใหม่ในเคสนี้ผลิตเดือน 11 ปี 2014 ปกติแล้วต้องเป็นปีปัจจุบันนะครับคือปี 2016 แต่เนื่องจากถังไซส์นี้ไม่ค่อยมีผลิตขายตามท้องตลาด สามารถเช็คกับที่ชุดเอกสารรับรองวิศวกรได้ครับซึ่งจะเป็นปีปัจจุบัน
- หลังจากเปลี่ยนถังแก๊สใหม่แล้วทางร้านจะเติมแก๊สให้แค่ 200.- เกจวัดระดับแก๊สที่หน้าปัทม์จะขึ้นขีดแดงยังสามารถขับต่อได้ประมาณ 50-60 โล เราต้องมาเติมแก๊สเพิ่มเต็มถังเกจวัดระดับแก๊สจะขึ้นมาปกติครับ
- เคสนี้ทำให้รู้ว่าตอนซื้อรถติดแก๊สต้องตรวจถังแก๊สผู้ขายด้วยว่าอายุถังปีไหน วาล์วรุ่นใหม่หรือเปล่า ลงเล่มยัง ภาษีขาดไหม ไม่งั้นอาจมีปัญหาตามมาได้ครับ




ตรวจสภาพรถ, ตรอ. lpg ngv, ตรวจถังแก๊สทุก 5 ปี, 10 ปีต้องเปลี่ยนถังแก๊ส, ถังแก๊สหมดอายุ, อายุการใช้งานถังแก๊ส, วันผลิตถังแก๊ส, ทดสอบถังแก๊ส, วาล์วระบบเก่า, วาล์วระบบใหม่, ใบวิศวะ, ใบวิศวกร, ใบวิศวกรรม, แจ้งเปลี่ยนถังแก๊ส lpg ngv, ค่าธรรมเนียมแจ้งเปลี่ยนถังแก๊ส, แจ้งเปลี่ยนถังแก๊สขนส่ง test date, td

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

กระจกมองข้าง(ปรับไฟฟ้า) เฉพาะฝั่งคนขับตั้งแต่รับรถมาค่อนข้างขุ่น มัว เวลาขับมองไม่เห็นรถตามหลังอาจเกิดอุบัติเหตุได้ เช็คกับที่บางไผ่ต้องซื้อทั้งหูของเทียบไต้หวันอยู่ที่ 700.- ส่วนร้านรับตัดเลนส์กระจกโค้งตรงตามรุ่นอยู่ที่ 590.- ส่วนมือสองญี่ปุ่นขายเป็นคู่มาพร้อมหูอยู่ที่ 2,000.- หาร้านอะไหล่มือสองก็ไม่ตรงตามรุ่นไม่มีใกล้เคียงเลย ถ้าซื้อมาทั้งหูต้องมาทำสีอีก สรุปนำตัวอย่างเก่าไปที่ร้านพรชัยอ่อนนุชตัดให้ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ ตรงตามส่วนเว้าส่วนโค้งเดิมเป๊ะครับ(กระจกหน้าตรงหนา 3 มิล ของเก่าเลนส์โค้งหนา 2 มิล) ขัดขอบให้เสร็จพร้อมใช้งานหมดไป 80.- ติดตั้งเสร็จลองใช้งานดูผมว่าใช้งานได้ดีพอสมควร ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้เลยครับ

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=5Q2_CXl0kAc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=5Q2_CXl0kAc</a>

     สืบเนื่องจากได้แบ่งห้องที่บ้านไว้สำหรับทำออฟฟิศซื้อขายอะไหล่รถยนต์ออนไลน์ เดินสายไฟรอไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ ส.ค. 57 ช่วงระหว่างหาข้อมูลแอร์มาลง สิ่งแรกที่คิดไว้คือ คือ ต้องประหยัดให้ความสำคัญกับค่าไฟรายเดือนมากกว่าราคาแอร์(แต่ถ้าได้ดี ถูก คุ้มด้วยก็ชอบครับ), เหมาะกับพื้นที่ขนาด 24 ตรม., เปิดใช้งานได้นานต่อเนื่อง, คอมเพลสเซอร์สามารถตั้ง หรือแขวนผนังได้ต้องไม่โดนแดด+น้ำ และไม่ขวางทางเข้าที่จอดรถ ***ถ้าผนังเป็นอิฐบล็อกไม่แนะนำให้แขวนครับ เนื่องจากผนังกลวง อาจรับน้ำหนักไว้ไม่ไหว หรืออาจต้องเจาะมากขึ้น***

     ผมเลือกซื้อแอร์ให้ตรงกับการใช้งานในชีวิตประจำของตัวเราเองมากกว่าซื้อเพราะรีวิวตามกระทู้ต่างๆ เพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่ากระทู้นี้เป็นการเขียนอวยเชียร์กันเอง ขายของ จ้างมาเขียน หรือเป็นของคู่แข่งเขียนโจมตีอีกฝ่าย หรือตรงจากผู้ใช้จริงๆ เลยกันแน่ เป็นต้น ดังนั้นหาข้อมูลเลือกอย่างมีสติดีที่สุดครับ เพราะปัญหาของแอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปัญหาจากการตรวจ QC 5%, ล้างแอร์ ซ่อมเปลี่ยนอะไหล่จากช่างศูนย์ที่ซื้อโดยตรงหรือไม่ 10%, ตำแหน่งที่วาง ติดตั้ง พื้นที่บริเวณโดยรอบ 15%, การใช้งาน+การดูแลรักษา 20%, และอีกจุดที่สำคัญมากๆ คือ ประสบการณ์+ความละเอียดของช่างผู้ติดตั้ง 50% ถือเป็นหัวใจเลยก็ว่าได้ ถ้าเราเจอช่างดีมีชัยไปแล้วกว่าครึ่ง ถ้าเจอช่างไม่ดี ต่อให้แอร์ดีแค่ไหน มันก็คือเศษชิ้นส่วนแอร์ดีๆ นี่เองครับ บางทียังต้องลุ้นเลยครับว่าเราจะดวงดีไหม ถ้าโชคดีก็ถือว่าเป็นบุญเรา หรือถ้าโชคร้ายก็ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมเราไป ช่างหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะ แต่ช่างที่มีประสบการณ์ ผ่านปัญหามาเยอะ ใส่ใจรายละเอียดบอกได้เลยครับว่าน้อย ดังนั้นกระทู้ไหนเขียนไม่ดีอย่างโน้นไม่ดีอย่างนี้ อันนี้ดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ ผมอ่านครับแต่ครึ่งๆ สุดท้ายผมจะเป็นคนตัดสินใจเอง

     ทุกยี่ห้อก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย คุณสมบัติแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าการใช้งานของเราเป็นแบบไหน ต้องการอะไรบ้างเท่านั้นเอง สำหรับออฟฟิศผมที่ติดตั้งจะเน้นทำงาน ฟิตเนสบ้าง รับแขกบ้าง นอนเล่นพักผ่อนดูหนังบ้าง ดังนั้นค่าประหยัดไฟ(SEER) เมื่อเทียบกับขนาดตัว 18,000 BTU ถือว่า ok เลยครับกับค่าไฟรายเดือนที่ต้องจ่ายเอง สุดท้ายมาลงเอยที่ LG Deluxe Inverter V ทำจองไว้เมื่อ เม.ย. 58 ติดตั้ง 11 เม.ย. 59 ตอนติดตั้งนัดบ่าย 3 เลื่อนเป็น 5 โมงเย็น และขอเลื่อนอีกเป็นทุ่มครึ่ง ในใจคิดว่าสงสัยดวงไม่ดีแน่เรา มาจริงสองทุ่มครึ่ง ติดตั้งจริงชั่วโมงครึ่งเสร็จครับ งานออกมาค่อนข้างดี(ใจผมเริ่มเย็น) หลังพูดคุยเลยเข้าใจช่างเขาติดปัญหาหน้างานจริงผมก็ทำงานบริการเหมือนกันจุดนี้พอรับได้ครับไม่ว่ากัน หลังจากติดตั้งเสร็จสิ่งแรกที่สัมผัสได้ คือ ความเงียบ เสียงหายใจผมยังได้ยินชัดกว่าอีกครับ เย็นเร็ว ส่วนคอมแอร์ทำงานเบามาก โดยรวมผ่านครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ลองไปหาอ่านกันเอาเองนะครับ ตัวนี้พร้อมติดตั้ง ประกันงานหลังติดตั้ง 1 ปี คอลย์เย็น 3 ปี คอมแอร์ 10 ปี ฟรีคูปองล้างแอร์ จบอยู่ที่ 26,900.-(หน้างานเพิ่มข้องอ 100+ให้พิเศษเด็ก 400) ครับ (ได้เงินคืนอีก 500 + 0% 10 เดือน จาก SCB เพิ่มมาให้อีกครับ) สำหรับผมแอร์ใช้เกิน 7-10 ปีก็ถือว่าคุ้มแล้วครับ อย่าลืมนะครับแอร์เปิดประจำ ยิ่งใช้งานมานาน ชิ้นส่วนต่างๆ ในระบบใกล้เสื่อม ค่า SEER จะลดต่ำลงเรื่อยๆ ผลคือกินไฟ ได้เวลาเปลี่ยนตัวใหม่กินกระแสไฟต่ำกว่า ประหยัดค่าไฟได้มากกว่ากัน แถมมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ได้ทดลองใช้กันด้วยครับ

     สรุปแอร์ที่ผมซื้อจะเน้นประหยัดค่าไฟที่ต้องจ่ายรายเดือนเป็นสำคัญครับเพราะใช้งานเองภายในครอบครัว จะเน้นค่า SEER สูงไว้ก่อน(นอกเหนือจากประหยัดไฟเบอร์ 5 และเป็น Inverter แล้ว) จุดติดตั้งแอร์ วางคอมฯ ถ้าให้ดีต้องไม่โดนแดด โดนน้ำเลยดีที่สุด ดูแลรักษาเข้าถึงง่าย ส่วนช่างที่มาติดตั้งต้องไปลุ้น+คุมหน้างานกันเอาเองนะครับ ถ้าหน้างานไม่ยากชั่วโมงครึ่งก็เสร็จแล้วครับ แต่ถ้าเจอหน้างานยากก็แล้วแต่เคสครับ เพราะช่างโมเดิร์นแอร์เลือกงานไม่ได้ครับเขาจัดมายังไงก็ต้องไปตามนั้น

หมายเหตุ ***คลิกที่ภาพเพื่อขยาย***
- วันที่ 13 เม.ย. 59 นัดช่างบ่าย 3 ครึ่่ง ขอเข้าจริงบ่าย 2 เป็นช่างทีมเดิมค่อยอุ่นใจหน่อยครับ ได้ติดตั้ง Panasonic Premium Inverter CS-U9SKT 9,000 BTU เพิ่มให้ห้องคุณพ่อด้วยเช่นกัน พื้นที่ 10 ตรม. เน้นประหยัด เปิดนานต่อเนื่องครับ การติดตั้งและรับประกันเหมือนข้างบน ยกเว้นคอมแอร์เหลือ 5 ปี ตัวนี้จบอยู่ที่ 16,900.-(หน้างานเพิ่มข้องอ ราง 400+ให้พิเศษเด็ก 100) ครับ

- ไฟบ้าน 15(45) แอมป์ : LG 18,000 BTU กินกระแส 6.8 แอมป์ ส่วน Panasonic 9,000 BTU กินกระแส 2.4 แอมป์ รวม = 9.2 แอมป์ ถ้าใช้งานเครื่องซักผ้า 2 ตู้เย็น 2 ทีวี 3 ปั๊มลม 1 ฯลฯ พร้อมกันสามารถใช้งานได้ปกติ ไฟไม่ตกครับ

- LG 18,000 BTU SEER 19 ค่าไฟ = 10,733.-/ปี(หรือ 894.-/เดือน), ส่วน Panasonic 9,000 BTU SEER 23.82 ค่าไฟ = 4,053.-/ปี(หรือ 338.-/เดือน) ***ให้สังเกตค่าประหยัดไฟ EER(แอร์ทั่วไป) หรือ SEER(แอร์อินเวอร์เตอร์) ค่ายิ่งสูงยิ่งดีทำให้ค่าไฟรายเดือนของเราต่ำลง ตัวนี้ผ่านการทดสอบเฉลี่ย 8-12 ชม./วันครับ***

- LG ตัวใหม่จะเป็น Dual Inverter ID18 ปี 2016 เปลี่ยน Body แต่ Function ทุกอย่างเหมือนเดิม ค่า SEER = 18 ต่ำจากของเดิมอยู่ 1 สรุป Body เดิมประหยัดกว่าครับ

- LG น้ำยาแอร์ R410A(หากรั่วซึมต้องไล่ระบบเติมใหม่เท่านั้น) ส่วน Panasonic น้ำยาแอร์ R32 ใหม่ล่าสุด(เติมส่วนที่ขาดได้เลยไม่ต้องไล่ระบบ) เพิ่งทราบเหมือนกันครับว่าถ้าติดตั้งแอร์ใหม่ไม่ต้องเติมน้ำยาแอร์ ช่างจะแว็คคั่มส่วนท่อที่ต่อเพิ่มเข้ามาเท่านั้นก่อนปล่อยน้ำยาเข้าสู่ระบบ เนื่องจากน้ำยาจะอยู่ในระบบมาเลยครับ

- ได้ลองเช็คค่า SEER ของแอร์มิตซู อินเวอร์เตอร์ 9,000 BTU กับ 18,000 BTU สูงสุดอยู่ที่ 15 เท่านั้น ส่วนแอร์ไดกิ้นอยู่ที่ 22.75




LG, Deluxe, Inverter V, Voice Mate, Inverter V Technology, Active Energy Control, Plasmaster Lonizer, Plasmaster Skin Care, Auto Cleaning, Anti Bacterial Air Filter, Multi Protection Filter Powered by 3M Tech, Fresh Dry, Low Noise 19dB, Deep Sleep Mode, 1 Toutch Soft Air, Jet Cool, 4-Way Auto Swing, Quick & Easy Installation, Panasonic, i Auto, Intelligent Dynamic Cool, Econnavi, Nanoe-G

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

หน้า: [1] 2 3
28 มี.ค. 2024
15:43
Today : 29535
Total : 41319577
ร้านค้าที่ขายสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์มากกว่า 1 ยี่ห้อ ให้ตั้งกระทู้ที่ หัวข้ออื่นๆ --> หมวดร้านค้าครับ
roomautoparts@hotmail.com | me
2014 Room Autoparts All Rights Reserved