Abarzaar รองเท้าเพื่อสุขภาพ นิ่มสบาย เพียง 199 บาท

[damonshoppu]

บริษัท ตา-เพชร กรุ๊ป จํากัด เราเริ่มต้นมาจากการค้าระบบบุคคลธรรมดา ต่อมาทางบริษัทได้มีแนวทางที่จะพัฒนาระบบการทํางานให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ประกอบกับวิสัยทัศน์ที่ใช้ในการดําเนินงานคือ “ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล สู่ผู้บริโภค” บริษัทจึงเปลี่ยนมาเป็นระบบนิติบุคคล โดยมีเป้าหมายหลักคือความสะอาดปลอดภัยในการผลิตสินค้าทั้งนํ้าตาลกรวด และนํ้าตาลปี๊บ

โรงงานน้ำตาลผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล สู่ผู้บริโภคโรงงานน้ำตาลของเราได้ให้ความร่วมมือกับสํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนนทบุรี นํานักศึกษาและคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้ามาร่วมวิจัยโครงสร้างระบบของบริษัท ไปจนถึงการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพื่อทำให้โรงงานน้ำตาล และการส่งออกของเราให้มีความทันสมัยมากขึ้น



โรงงานน้ำตาลตา-เพชร กรุ๊ป ได้รับการรับรองจาก
[list=1]

• สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
• สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
• มาตรฐาน Primary GMP กระทรวงสาธารณสุข
• ผ่านการตรวจสอบคุณภาพด้วย OMIC

ภายในโรงงานมีการผลิตน้ำตาลด้วยกันหลากหลายประเภท และจัดจำหน่ายภายใต้ 4 แบรนด์หลัก คือตา-เพชร, ตุ๊กตา-เพขร, ลาภรส, ตราเพชรคู่



สำหรับผู้ที่สนใจโรงงานน้ำตาลของเรา ไม่ว่าจะซื้อปลีกหรือซื้อส่งพร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ
สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่
เว็บไซต์: https://www.tapetchgroup.com/ 
โทร 02-921-8927, 081-101-6020, 081-822-2406
อีเมลล์ : Info@tapetchgroup.com

[damonshoppu]

ผิวที่สกปรกมักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และมลพิษต่าง ๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวโดยตรง และการล้างทำความสะอาดผิวเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน อย่างการมาส์กหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจะช่วยให้ผิวพรรณแลดูมีสุขภาพดีอย่างเห็นได้ชัดเมื่อใช้เป็นประจำและต่อเนื่อง

ส่วนผสมจากธรรมชาติอันทรงพลังงาน

ผลิตภัณฑ์ของ Kiehl’s มีจุดเด่นในการนำสารอันทรงพลังตามธรรมชาติมาฟื้นฟูและบำรุงผิว ซึ่งในผลิตภัณฑ์มาส์กหน้า Rare Earth Pore Cleansing Masque ก็เช่นเดียวกัน ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนี้

- เบนโทไนท์ เป็นสารจากธรรมชาติที่ได้จากแคนาดา และแถบมิดเวสต์ โดยเป็นสารผสมที่ประกอบขึ้นจากแร่ดินเหนียว ซึ่งมีการนำมาใช้เป็นสารช่วยแขวนลอยตะกอนต่าง ๆ ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโลชั่น และเครื่องสำอาง เพราะสารชนิดนี้สามารถดูดซับน้ำมันส่วนเกินได้ดี เมื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์มาส์กหน้า Kiehl's จึงสามารถลดความมันบนในหน้า พร้อมทำให้เนื้อของผลิตภัณฑ์เกิดความคงตัว
-  อะโลเวร่า หรือว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติสำคัญในการปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน พืชชนิดนี้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทางการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบัน และแผนโบราณมานานแล้ว และเพื่อประสิทธิภาพในการปลอบประโลมผิวที่ดี ทาง Kiehl’s จึงคัดเลือกสารสกัดจากว่านหางจระเข้จากต้นว่านหางจระเข้ที่ปลูกในสาธารณรัฐโดมินิกันมาใช้งานเท่านั้น
- โคลนขาวแอมะซอน เป็นโคลนตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ตัวโคลนมีสีขาวแตกต่างจากโคลนทั่วไป มีคุณสมบัติในการกำจัดแบคทีเรีย สารพิษ น้ำมันส่วนเกิน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้หลุดออกไปจากผิวได้อย่างล้ำลึก จึงสามารถลดการอุดตันของผิว อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รูขุมขนกว้างมากขึ้นได้

จุดเด่นที่น่าสนใจของการ มาส์กโคลน

เนื้อมาส์กหน้ามีความเข้มข้นมากเป็นพิเศษ มีสีเทาอมเขียว เนื้อมาส์กค่อนข้างหนักทำให้สามารถพอกเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าได้ง่าย พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ทำให้รู้สึกสดชื่น ๆ เมื่อเนื้อโคลนดึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกมาผิวก็จะรู้สึกสะอาดสดชื่นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

วิธีการใช้เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเมื่อทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า และเช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้งพอหมาดแล้ว ให้ทาเนื้อโคลนเป็นชั้นบาง ๆ ลงบนผิว พยายามเกลี่ยให้ทั่ว แต่ต้องหลีกเลี่ยงไม่ทาโคลนบริเวณใกล้ดวงตา จากนั้นทิ้งให้เนื้อโคลนแห้งนานประมาณ 10 นาที จากนั้นให้เช็ดโคลนออกด้วยผ้าสะอาดที่นิ่มและไม่ระคายเคืองผิวอย่างผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ๆ แล้วค่อย ๆ เช็ดโคลนออกจนหมด ควรทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้ง เมื่อใช้เป็นประจำจะรูสึกได้เลยว่าเกิดการกระชับรูขุมขน ผิวแลดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ขึ้น

[damonshoppu]

ทีวี เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนถึงแม้ว่าเราจะมีโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ในการใช้งาน ดูความบันเทิงหรือดูส่วนต่างๆกันแล้ว สำหรับ tv งั้นปัจจุบันก็ยังถือว่าได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไม่เคยหย่อนลงแม้แต่นิดเดียว เพราะปัจจุบันมีการพัฒนาระบบให้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นคนเฒ่าคนแก่ก็ชอบที่จะดูทีวีจอใหญ่กันทั้งหมด เบื่อกับการดูข่าวฆ่ากันตายก็เข้าช่อง YouTube เข้าดูหนังจาก netflix  อยู่บ้านไม่เหงาโดยเฉพาะสถานการณ์ที่เราจะต้องอยู่บ้านยาวนานแบบนี้ บางคนเลือกที่จะมีทีวีใหม่อีกสัก 1 เครื่อง เพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานที่ขึ้น

สำหรับหลักการเลือก ทีวี หลายคนอาจจะคิดว่าเน้นความใหญ่โตเอาไว้ก่อน คุ้มค่าและใช้เวลาได้อย่างยาวนาน ความเป็นจริงคิดแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ สำหรับความคิดที่ว่าจะต้องเลือกของใหญ่ไว้ก่อนถึงจะคุ้มค่าที่สุด ก็ไม่ใช่ความคิดที่ผิดสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าเกิดว่าขนาดจอที่เล็กและขนาดจอที่ใหญ่มีราคาต่างกันเพียงเล็กน้อย เราก็ควรจะเลือกราคา ทีวีที่สมน้ำสมเนื้อแล้วได้จอที่ไหนถึงจะคุ้มค่า ก็ถือว่าไม่ผิด แต่ถ้าเกิดว่าสถานที่ที่เราจะไปใช้งานหรือสถานที่ที่เราจัดวางไม่เหมาะสมและไม่ได้คำนวณเอาไว้มันอาจจะกลายเป็นว่าสิ่งที่คุณซื้อมาในราคาถูกและถือว่าเป็นของที่คุ้มค่าอาจจะกลายเป็นภาระใหญ่สำหรับคุณก็เป็นไปได้

หลักการที่เราจะเลือกทีวีแบบง่ายๆก็ควรจะมีหลักการอย่างเช่น

1. ดูขนาดที่ตั้ง หรือห้องที่ตั้งมีความกว้างใหญ่ขนาดไหน เว้นระยะจอทีวีกับผู้นั่งอย่างน้อยประมาณ 2 เมตรขึ้นไป
2. ดูเรื่องของราคาและการใช้งานที่คุ้มค่า โดยเฉพาะปัจจุบันทีวีนั้น เราจะเลือกเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้
3. ยี่ห้อและการรับประกันก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เลือกยี่ห้อที่มีตลาดรองรับและมีศูนย์บริการคุ้มค่าที่สุด

หลักการในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเราจะต้องดูทั้งในส่วนที่เราจะนำไปจัดว่าง เรื่องของขนาด สีสัน และเรื่องของราคารวมด้วยกันทั้งหมด ในส่วนของการใช้งานของจริงหรือลูกเล่นต่างๆ เราไปเรียนรู้ระหว่างที่รอ เลือกจะซื้อตรงหน้างานก็สามารถทำได้ เราลองฟังพนักงานขายก็ที่บายถึงความคุ้มค่าในการใช้งาน แล้วตัดสินใจตรงนั้นอีกครั้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยด้วยเช่นกัน

แต่ละบ้านในปัจจุบันนี้เชื่อได้ว่า มีทีวีไว้สำหรับใช้งานไม่น้อยกว่า 1 เครื่อง โดยเฉพาะบ้านที่มีการแยกห้องหลายห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องกินข้าวรวมไปถึงห้องนอน ก็จะต้องมีทีวี 1 เครื่องเป็นอย่างน้อย จะเลือกทีวีอีกครั้งควรเลือกให้ดี ให้คุ้มค่ากับการใช้งานอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป 

[damonshoppu]

อากาศร้อน ๆ ในบ้านเรานั้นเรียกว่ามีให้สัมผัสกันแทบทุกวัน ทุกเดือนเลยคงไม่ผิด ซึ่งสิ่งที่จะช่วยคลายร้อนดีที่สุด นอกจากพัดลมแล้วก็คงหนีไม่พ้นแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายประเภทมาก จึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้เข้าใจมากขึ้นเพื่อการเลือกซื้อใช้อย่างเหมาะสม พร้อมบอกวิธีเลือกซื้อแอร์พกพาหนึ่งในอุปกรณ์คลายร้อนที่ตอบโจทย์การใช้งานมาฝากกันด้วย

ประเภทของแอร์ที่ควรรู้สำหรับคนไทยยุคใหม่

1. แอร์ติดเพดาน   

ประเภทแรกก็คือแอร์ติดเพดานที่มีการติดตั้งยากกว่าประเภทอื่น ๆ ส่วนราคาที่แพงจากการติดตั้งอันซับซ้อนนั่นเอง ซึ่งปกติแล้วขนาด BTU จะอยู่ที่ 24,000 หรือมากกว่านั้น ให้ความเย็นสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ กินพื้นที่ไม่มาก ระบบทำความเย็นพลังสูง เหมาะกับห้องกว้างและยาวมาก ๆ

2. แอร์ติดผนัง

ถือเป็นแอร์ที่นิยมมากที่สุดในเมืองไทยคงไม่ผิด โดยการออกแบบมีหลากหลาย มาพร้อมกับความเย็นที่เลือกได้ ตั้งแต่ 9,000 BTU ไปจนถึง 24,000 BTU หรืออาจมากกว่าในบางรุ่น ซึ่งระบบของแอร์ประเภทนี้จะมี 2 ยูนิตที่แยกส่วน คือส่วนที่อยู่ภายในอาคาร และส่วนภายนอกอาคาร หรือส่วนทำความเย็นติดผนัง เรียกสั้น ๆ ว่า คอมเพรสเซอร์ มักใช้ในทาวน์เฮ้าส์ อพาร์ตเม้นต์ หรือพื้นที่ที่มีขนาดกลาง ไม่ใหญ่โตมาก

3. แอร์ใช้พกพา

หรือแอร์เคลื่อนที่ สามารถเลื่อนไปไหนก็ได้ ลักษณะตัวเครื่องจะมีท่อแนบติดไปตลอด คอยส่งความร้อนออกมาด้านนอกผ่านหน้าต่าง หรือประตูที่เปิดอยู่ ความเย็นค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับแอร์ประเภทอื่น ซึ่งปกติแล้วจะน้อยกว่า 15,000 บีทียู

4. แอร์แบบ 4 ทิศทาง

ปกติแล้วแอร์ประเภทนี้มักเห็นกันตามออฟฟิศ หรือบริเวณที่คนใช้งานหลายจุด เพราะจะมีความเย็นออกทั้ง 4 ทิศเลยทีเดียว แม้จะมีความเย็นเทียบเท่าแอร์ติดผนังแต่ขนาดยูนิตใหญ่กว่า ทว่าการติดตั้งควรปรึกษาช่าง เพราะจำเป็นต้องใช้พื้นที่เพดานมาก และมีคอมเพลสเซอร์อยู่ด้านนอก

วิธีการเลือกซื้อแอร์ประเภทเคลื่อนที่หนึ่งในแอร์คลายร้อนที่ตอบโจทย์

- เลือกตามขนาด BTU ให้สัมพันธ์กับขนาดห้องที่จะใช้วางเครื่อง เพื่อความเย็นที่ชื่นใจทั่วถึง
- การวางเครื่องควรเว้นระยะให้พอดี อย่าไปชิดติดผนังมาก
- ตรวจสอบราคาแอร์ให้ดีว่าแอร์เคลื่อนที่ ราคาเท่าไหร่ สามารถเปรียบเทียบราคากับยี่ห้อ หรือรุ่นนั้น ๆ ก่อนเพื่อหาความคุ้มค่าที่สุด

ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายละเอียดที่น่าสนใจของแอร์ประเภทต่าง ๆ รวมถึงวิธีการเลือกซื้อแอร์ประเภทเคลื่อนที่หนึ่งในประเภทแอร์ไว้คลายร้อนได้อย่างตอบโจทย์ ซึ่งก็หวังว่าทุก ๆ คนจะสามารถเลือกได้ตามความต้องการ เย็นฉ่ำกันทั่วบ้าน ไม่ต้องทนร้อนอีกต่อไปแล้ว

[damonshoppu]

เราคนรักการทำขนมเตรียมหาgเครื่องผสมอาหารหรือเครื่องตีแป้งเครื่องใหม่เพื่อมาทำให้การทำขนมของคุณเป็นเรื่องง่าย โดยเครื่องตีแป้งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้เพื่อน ๆ ทำของหวานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเรามีเครื่องตีแป้งมานแนะนำ ทั้งราคา ฟังก์ชันการใช้ครบ รุ่นไหนที่ต้องกับที่เพื่อน ๆ ค้นหาต้องรีบหามาเป็นเจ้าของได้แล้วนะคะ

1. เครื่องผสมอาหาร ELECTROLUX รุ่น EKM3437W (ราคา 8,990 บาท)



เครื่องผสมอาหาร ELECTROLUX รุ่น EKM3437W เป็นเครื่องผสมอาหารเครื่องเล็กกะทัดรัดที่เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งทำขนมเป็นอย่างยิ่ง มาพร้อมกับโถผสมอาหารสแตนเลสขนาดใหญ่ 4 ลิตร และโถปั่น BPA FREE สามารถติดตั้งได้ด้านบนของตัวเครื่อง โดยมีอุปกรณ์เสริมมอบให้ อาทิอุปกรณ์สำหรับนวดแป้ง ตีส่วนผสมให้ขึ้นฟู รวมถึงที่ขูดและบดส้ม ข้อดีสำหรับเครื่องผสมอาหารเครื่องนี้คือสามารถเข้าเครื่องล้างจานได้ และมีสายไฟที่ยาวมากกว่า 1.2 เมตร ให้การผสมอาหารของแม่ครัวมือใหม่เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้นค่ะ

2.เครื่องผสมอาหาร BRAUN รุ่น HM1010WH (ราคา1,920 บาท)



เป็นเครื่องผสมอาหารหรือเครื่องตีแป้งมือถือ โดยหัวตีผลิตจากสเตนเลสคุณภาพดีมี 2 แบบ หัวตะกร้อ และหัวเกลียวทำให้การตีแป้งง่ายขึ้นและให้แป้งเนียนเป็นเนื้อเดียวกันง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ปราศจากสาร BPA free จึงสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยไม่มีอันตราย มาพร้อมกับฟังก์ชัน Turbo จึงช่วยในการเร่งความเร็วให้ผสมแป้งได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ และประหยัดเวลามากขึ้น รวมถึงช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์เมนูที่หลากหลาย อาทิ ตีแป้ง ผสม และทำวิปปิ้งครีมก็ทำได้ตามที่ใจต้องการ และได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ โดยสามารถปรับระดับความเร็วได้ 4 ระดับ โดยสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม มีกำลังมอเตอร์ 400 วัตต์ โดยรับประกันสินค้า 1 ปี

3.เครื่องผสมอาหาร MINIMEX รุ่น MSM2-BLU (ราคา 10,900 บาท)



เครื่องผสมอาหาร MINIMEX มาพร้อม โถผสมอาหารผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพมาพร้อมความจุ 4.5 ลิตร สามารถปรับความเร็วสูงสุดได้สูงถึง 12 ระดับจึงสามารถได้ตามความเหมาะสม โดยเครื่องผสมอาหารเครื่องนี้ผลิตมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ มีความทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยดีไซน์สีสันสวยงามทันสมัยเหมาะกับการใช้งานเป็นประจำ สามารถสับ นวด ปั่น ตีครีม และเตรียมอาหารได้อย่างหลากหลายแบบ โดยทั้งประหยัดแรงและก็ประหยัดเวลาเป็นอย่างยิ่ง มีกำลังไฟ 1,000 วัตต์ จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ Planetary Mixing System 2 แกนหมุนที่ช่วยในการผสมอาหาร และรับประกันคุณภาพ 2 ปี จึงตอบโจทย์ทุก ๆ การทำอาหารและตัวช่วยพิเศษในการเข้าครัวของทุกคน

[damonshoppu]

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาน้ำยาซักผ้าแบบรีฟิล แต่ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนแล้วแต่ละยี่ห้อมีความโดดเด่นอะไร แน่นอนว่าเราไม่พลาดรวบรวมมาให้ศึกษาอย่างละเอียด เพื่อราคาที่ย่อมเยาแต่คุณภาพบอกเลยว่าจัดเต็มมาก ๆ ซึ่งจะมีรุ่นไหน ยี่ห้อใด ประหยัดเงินได้มากน้อยเพียงใด เอาเป็นว่าไปติดตามกันเลยดีกว่า

แนะนำ 5 น้ำยาซักผ้าแบบรีฟิล คุณภาพดี ราคาย่อมเยา

1. FINELINE 700ml MIDNIGHT FANCY

เป็นน้ำยารีฟิลที่เข้มข้นมาก ๆ มีด้วยกัน 5 ชนิด กลิ่นหอมที่มาจากดอกไม้ฝรั่งเศส รับรองว่าผ้าหอมติดทนนานมาก ๆ ป้องกันคราบสกปรกดีเยี่ยม ไม่ทำให้คืนกลับสู่ผืนผ้าเพราะมีสารอะคริลิก โพลิเมอร์ นำไปใช้ทำความสะอาดผ้าได้ทั้งผ้าสี และผ้าขาว รวมถึงเอาไปใช้ได้ทั้งกับซักมือ และเครื่องซักผ้า แนะนำว่าป้ายผลิตภัณฑ์ลงบนคราบก่อนหากเป็นคราบฝังแน่นจะช่วยได้ดีมาก

2.  SMART 700ml VIVA VIOLET

เบื่อจะใช้ผงซักฟอกเลือกเป็นน้ำยาช่วยได้ เพราะความสะดวกสบาย  ซึ่งหากเป็นแบบรีฟิลของ SMART 700ml VIVA VIOLET รับรองไม่ธรรมดา ด้วยสูตรเข้มข้นพร้อมตรงเข้าสลายคราบได้คุณภาพจัดเต็ม ไม่พอยังช่วยลดการเกิดกลิ่นอับชื้นได้ด้วย กลิ่นนี่หอมยวนใจ ลดกลิ่นอับชื้นได้ดี ใช้ได้กับทุกผ้าทุกชนิด เอาไปใช้ร่วมกับการซักมือ หรือซักเครื่องไม่มีปัญหา

3. HYGIENE 600ml LOVELY BLOOM

ต่อมาเป็นอีกผลิตภัณฑ์น้ำยาที่ช่วยได้ดี กับยี่ห้อ HYGIENE ที่มีเทคโนโลยีพิเศษดูโอ แอคทีฟ เซ้นท์ ช่วยขจัดคราบที่ฝังลึก สบายกลิ่นได้ดี พร้อมปล่อยพลังความหอมที่ยั่วยวนชวนหลงใหล และด้วยเทคโนโลยีไลฟ์เซ้นท์เซรั่ม ช่วยปกป้องเสื้อผ้าทุกการเคลื่อนไหว ทำให้สดชื่นตลอดเวลา สามารถใช้ได้กับทุกชุด และใช้ได้ทั้งซักเครื่อง – ซักมือ

4. DOWNY 1,350ml SUNRISE FRESH

ปิดท้ายกันที่แฟ้บซักผ้าแบบน้ำยายี่ห้อ DOWNY ที่เรื่องกลิ่นไว้ใจได้เลยเพราะหอมสดชื่นมาก ติดทนนาน และยังช่วยให้ผ้าขาวสะอาดนาน 3 สัปดาห์ไปเลย โดยสามารถนำไปใช้ได้ทั้งซักมือในปริมาณ 50 มล. ต่อผ้า 22 – 28 ชิ้น และซักเครื่องในปริมาณ 50 มล. กับผ้าปกติทั่วไป ทั้งนี้ หากอยากได้ประสิทธิภาพแบบคูณ 2 ต้องใช้ร่วมกับน้ำยาปรับผ้านุ่ม DOWNY ด้วย รับรองว่าดีงามไม่ไหว

อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานน้ำยาซักผ้าก็มีข้อควรระวังให้นำไปปรับใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรักษาให้พ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง และแสงแดด พยายามอย่าให้กระเด็นเข้าตา หรือหากเข้าตาก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาดให้เร็ว จนอาการระคายเคืองทุเลาลง และหลังจากใช้งานก็ควรล้างมือด้วยน้ำสะอาด หรือสบู่ ใครที่แพ้ง่ายมากควรสวมถุงมือยางก่อนใช้งาน

[damonshoppu]

ปัจจุบันการใช้งานเครื่องฟอกอากาศนั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ใครที่เลือกแบบวางตั้งก็อยากให้วางกันในลักษณะที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แต่จะวางแบบไหน อย่างไร เชื่อว่ามีหลายคนที่อยากรู้อย่างที่สุด จึงไม่พลาดมีมาบอกต่อด้วยเช่นกัน

การวางเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสม เพื่อการใช้งานสมบูรณ์แบบ

1. วางเครื่องให้ห่างจากผนัง 10 – 15 ซม.

เป็นการวางในตำแหน่งที่เหมาะสมมาก ๆ นั่นคือการวางให้ห่างจากผนัง หรือสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ให้ได้ 10 – 15 ซม. เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด และไม่เกิดคราบฝุ่นที่เครื่องได้ง่ายด้วย เนื่องจากอากาศที่ทำงานไปปะทะผนังนานเกินไป

2. ขนาดห้องกับขนาดเครื่องต้องเหมาะสม

ขนาดเครื่อง Air Purifier กับขนาดห้องจำเป็นต้องเหมาะสมกัน เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขนาดเครื่องที่มีขนาดเล็กจำเป็นต้องใช้กับห้องที่มีขนาด 20 ตารางเมตร เครื่องฟอกขนาดกลางใช้กับห้องที่มีขนาด 20 – 40 เมตร เครื่องฟอกขนาดใหญ่ใช้กับห้องที่มีขนาด 40 – 140 ตารางเมตร

3. ไม่แนะนำให้วางที่หัวเตียง

ไม่แนะนำอย่างที่สุดกับการวางเครื่องฟอกเอาไว้ที่หัวเตียง เพราะไม่ใช่แค่เสียงจะดังรบกวนเท่านั้น แต่เครื่องจะไปดูดเอาอากาศมาวน ๆ อยู่รอบตัวเรา ทำให้เกิดฝุ่นผ่านตัวเราตามไปด้วย

4. ไม่แนะนำให้วางที่หน้าประตูห้องน้ำ

เป็นอีกบริเวณที่ไม่แนะนำให้วางเครื่องฟอกเอาไว้เลย นั่นคือหน้าห้องน้ำ เพราะไม่ใช่เรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แต่เป็นการดูดเอาความชื้นของห้องน้ำมาปล่อยไว้ในห้องเราไปด้วย จะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคเกิดปัญหาสุขภาพตามไปด้วย

5. การวางให้ได้ระยะกับแอร์

เพราะแอร์จะมีแรงดูดอากาศมากกว่าเครื่องกรองอากาศ จึงไม่เหมาะที่จะวางเอาไว้ใต้แอร์ เพราะอากาศที่ยังไม่ทันได้ฟอกจะไปอยู่ในแอร์ที่ดูดเอาขึ้นไปแทน การวางควรวางให้ตรงข้ามกับแอร์เลย เพื่อให้อากาศที่ผ่านเครื่องฟอกเรียบร้อยแล้วถูกแอร์ดูดเข้าเครื่อง แล้วปล่อยอากาศเย็น ๆ ออกมาแทน

ใด ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องการวางเครื่องฟอกอากาศที่ควรให้ความสำคัญเท่านั้นแต่เรื่องของแผ่นกรองภายในเครื่องก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น แผ่นกรอง HEPA แผ่นกรองหยาบ แผ่นกรองคาร์บอนใด ๆ ก็ต่างมีอายุการใช้งานตามระยะเวลาของตัวเองซึ่งแตกต่างกัน

ดังนั้นจำเป็นต้องทำความสะอาด และเปลี่ยนแผ่นกรองตามอายุการใช้งานเสมอ เพราะบางเครื่องฟอกก็ไม่มีเซนเซอร์เตือนเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน ก็จะกลายเป็นว่าทำงานกรองอากาศได้ไม่เต็มที่ เป็นอันตรายต่อร่างกายเราเองได้ ต่อไปนี้การวางเครื่อง และการดูแลเครื่องจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด