โพสต์ Thank You

แสดงโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับ Thank-O-Matic.จะแสดง หัวข้อ ที่คุณ ได้รับการเปลี่ยนเเปลง Thank You จากผู้อื่น. (ที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์.)


Topics - volvo960

วันนี้จะมารีวิวคุณสมบัติกล้องติดรถยนต์หลักๆ ของ Proof (USA) PF500 Full HD 1080P + GPS หลังจากใช้งานมาได้ประมาณ 1 เดือน มีอะไรโดนใจบ้างมาเริ่มกันเลย

- ก่อนซื้อได้หาข้อมูลดูไว้หลายยี่ห้อ คุณสมบัติ ราคา ก็ต่างกัน มีทั้งเลนหน้า-หลัง แต่สาเหตุหลักที่เลือกตัวนี้ คือ ผมจะเน้นภาพรายละเอียดที่คมชัดทั้งกลางวัน กลางคืน เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นภาพที่ได้ผมขอชัดเจน ครบถ้วน สมบูรณ์ไว้ก่อนครับ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ ติดตาม และเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆ ผมว่าเป็นตัวช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นครับ

- ตัวเครื่องเล็กกะทัดรัด บาง เบา ติดตั้งใช้งานง่าย+เร็ว หน้าจอ LCD กว้าง 2.7" ไม่บังระดับสายตา ปรับองศาขึ้นลง ซ้ายขวาได้ มาพร้อมสายเสียบเข้าที่จุดบุหรี่ มีไฟแสดงสถานะสีฟ้า เมื่อหมุนฝาขึ้นจะพบช่องเสียบ USB ในตัว เสียบชาร์จมือถือ/พาวเวอร์แบงค์ได้ นอกจากนี้ยังมีสาย USB มาให้อีก 1 เส้น สำหรับต่อเข้า front ได้โดยตรงครับ   ***สายที่เสียบบุหรี่ยาวประมาณ 4 ม. ท่านใดที่ใช้รถคันเดียวสามารถเดินเก็บสายในรถให้เรียบร้อยได้ สายไฟพอแน่นอนครับ***

- ฟังก์ชั่นหลักๆ ที่ผมเซ็ทใช้งานจริงสำคัญๆ มีดังนี้
     # ความละเอียดภาพ 1920 x1080P
     # รอบบันทึก 5 นาที (Cycle Recording)   ***ระบบจะมีการบันทึกเป็นรอบๆ ทั้งขณะสตาร์ทรถ ขับรถ ลักษณะเหมือน Loop ง่ายต่อการค้นหา Replay และเมื่อเมมเต็มก็จะวนกลับมาทับไปเรื่อยๆ และสามารถกดล็อคไฟล์ที่สำคัญไว้ได้ เพื่อป้องกันจาการเขียนทับ และที่สำคัญขณะกล้องบันทึกอยู่นั้น เราสามารถกดถ่ายภาพ(.jpg) เหตุการณ์ต่างๆ ไว้ได้ด้วยเช่นกันครับ ***
     # ตั้งบันทึกอัตโนมัติ   ***เมื่อขณะสตาร์ทรถกล้องจะบันทึกอัตโนมัติ และหยุดบันทึก(ปิดเครื่อง) เองเมื่อดับรถทุกครั้ง***
     # จับภาพเคลื่นไหว (Motion Detection)   ***กล้องจะบันทึกอัตโนมัติขณะมีคนเข้ามาบริเวณหน้ารถ และจะดับเองอัตโนมัติเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหว 1 นาที เคสนี้ช่องเสียบบุหรีต้องต่อตรงน่ะครับ ไม่ดับพร้อมสวิทกุญแจ หรือจะต่อเข้ากับพาวเวอร์แบงค์ก็ได้ครับ***
     # ปิดเครื่องล่าช้า 30 วินาที   ***ขณะเราดับรถ กล้องยังคงทำงานอยู่ตามเวลาที่กำหนด โดยใช้แบตจากตัวกล้อง และเป็นการยืดอายุอุปกรณ์ด้วยครับ***
     # ตั้งบันทึกวัน เวลา ความเร็ว เส้นทาง ตำแหน่งรถ ฯลฯ   ***เมื่อนำไฟล์ลงเครื่องเปิดผ่านโปรแกรมเราจะทราบรายละเอียดทั้งหมดครับ***

     # ตั้งภาษาไทย
     # ตั้งวัน เวลาปัจจุบัน + โซนเวลา GMT +7:00
     # ตั้งระดับเสียง เปิดเสียงไมค์+เตือน
     # ปิดหน้าจออัตโนมัติ 3 นาที   ***ขณะสตาร์ทรถกล้องจะเปิดหน้าจอและบันทึกอัตโนมัติ และดับ/พักหน้าจออัตโนมัติ แต่ภาพก็ยังบันทึกตามปกติ สังเกตุสถานะไฟเขียวจะกระพริบ***
     # ประหยัดพลังงาน 5 นาที   ***กรณีเราเอามาต่อกับพาวเวอร์แบงค์เพื่อ Replay ถ้าไม่ได้ใช้งานตามเวลาที่กำหนด กล้องก็จะปิดอัตโนมัติครับ***
     # อัพเดท GPS อัตโนมัติ   ***เราจะทราบแต่ความเร็วที่ใช้ เส้นทาง และจุดเกิดเหตุ แต่ไม่สามารถนำทางได้น่ะครับ***
     # G-Sensor   ***ป้องกันข้อมูลหากมีการชนเกิดขึ้น ตัวนี้ผมไม่ค่อยได้ใช้ครับ เพราะวิ่งอยู่แต่ในกรุงเทพฯ ใช้ความเร็วไม่สูง***

- ปรับหน้าตรงให้เห็นกระโปรงหน้ารถ จะเห็นรถที่มาด้านข้างซ้าย-ขวา หน้ารถได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องหันกล้องไปทางซ้าย หรือขวาแต่อย่างใด   ***เลน Sony 170 องศา ให้ภาพคมชัดขณะขับย้อนแสง(แดด/ไฟสูง) หรือแสงน้อยตอนกลางคืน (Night Vision Record)***

- รองรับ Micro SD Card 32GB (Class 10) บันทึกต่อเนื่องนาน 8 ชม.   ***ตัวเครื่องลองเปิดใช้งานต่อเนื่องตลอดทั้งวันจะแค่อุ่นๆ ไม่ร้อน สำหรับตัวเครื่องสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 60 องศา แต่ผมไม่แนะนำให้ติดกล้องที่กระจกตากแดดน่ะครับ เหตุผลคือตัวดูดกระจกบริเวณที่ติดฟิล์มจะเป็นรอยวงกลม แก้ไม่หาย อีกทั้งตัวอุปกรณ์จะเสื่อมง่ายกว่ากำหนด ให้ถอดเก็บดีกว่าครับ

ปล.
- สังเกตุผมจะไม่ได้เดินสายตามตะเข็บ ขอบ และเสาที่ตัวรถให้เรียบร้อย เนื่องจากใช้รถ 3 คัน (24 74 96) เน้นสะดวกย้ายไปยังรถทั้ง 3 คัน หรือคันอื่นๆ ได้ง่ายกว่าครับ
- วันซื้อ-ประกันถึง : 7 ก.พ. 58 - 1 มี.ค. 59   ***ปีกับอีก 1 เดือน***
- ค่าตัวเจ้าเครื่องนี้ผมซื้อมา+เมม+รวมชาร์จบัตรอยู่ที่ 5,500.- ครับ
- สำหรับรีวิวนี้เป็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ผมใช้ประจำ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการผมได้ครบ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ สามารถลองหาข้อมูลดูเพิ่มเติมได้น่ะครับ

     สรุปเวลาเดินทางไปไหนมาไหนก็จะนำกล้องติดรถไปด้วยทุกครั้งครับ เพื่อความอุ่นใจ เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรจะได้ไม่ต้องมายืนเถียงกันไปมา เพราะทั้งภาพ และเสียงจะเป็นสิ่งที่อธิบายได้ดีที่สุดครับ อีกทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ ไม่ประมาท มีความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้นครับ

คลิปบันทึกตอนกลางวัน
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=JPzefPAlygA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=JPzefPAlygA</a>

คลิปบันทึกตอนย้อนแสงแดด
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=tJd0L1y-LQI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tJd0L1y-LQI</a>

คลิปบันทึกตอนกลางคืน /แสงน้อย
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ckdc58Tl1BU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ckdc58Tl1BU</a>





พรูฟ กล้องติดรถยนต์, วงจรปิดติดรถยนต์, cctv ติดรถยนต์, Proof กล้องติดหน้ารถ, กล้องรถยนต์ยี่ห้อไหนดีสุด, กล้องรถยนต์ Proof ดีไหม, กล้องติดรถยนต์แบรนด์อเมริกา, กล้องติดรถ, กล้อง DVRs, Proof Ultimate Visual, Clear Full HD 1080P, High Definition Video Camcorder PF500, Clear Quality Record, Develop in USA, Proof Car Camera PF500 Balck with GPS, Carcam Recorder, Car Camera, Car Charger, PC-USB, PC-HDMI

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

          สรุปเคสนี้ เป็นแก็งมิจฉาชีพชาวต่างชาติ ทำเป็นกระบวนการ แนบเนียนมากครับ โดยการ Copy ภาพรถ+ข้อมูลที่มีการซื้อขายไปแล้วของคนอื่นๆ เอามาลงขายใหม่ ตั้งราคาครึ่งๆ จากราคาตลาด ผู้ที่นำมาโพสลงหลายเว็บ (ใช้หลาย user) กับผู้ที่ติดต่อมาทางอีเมล์เป็นคนละคนกัน แจ้งว่ารถสภาพดีมาก วิ่งน้อย เข้าศูนย์ตลอด ราคารวมค่าขนส่งเรียบร้อยแล้ว คาดว่าผู้สนใจซื้อส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะผู้ขายรถจะอ้างว่า รถซื้อ และจดทะเบียนในไทย จอดอยู่ที่บริษัทโลจีสติกส์ที่เชียงราย ส่วนเจ้าของรถกลับต่างประเทศมาแล้ว แต่ได้มอบหมายให้บริษัทโลจีสติกส์ดำเนินการแทนทุกอย่าง

          พยายามหลอกผู้สนใจซื้อรถว่าเพื่อความสะบายใจทั้ง 2 ฝ่าย ให้ผ่านบริษัทตัวกลางที่อังกฤษที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะประสานกับบริษัทโลจีสติกส์ที่เชียงราย เพื่อส่งรถจนถึงบ้านผู้ซื้อ โดยจ่าย 50% ก่อน ของมูลค่ารถ และเก็บส่วนที่เหลือหน้างาน และหากตรวจสภาพรถแล้วไม่พอใจก็สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน โดยที่ผู้ซื้อไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ทำให้ผู้ที่สนใจตกเป็นเหยื่อหลายราย

          สำหรับเคสนี้ผมเกือบไปแล้วครับแต่โชคดีที่ได้เช็ค ชื่อ-นามสกุล เบอร์มือถือ อีเมล์ และข้อความต่างๆ ของผู้ขาย ผ่าน Google รวมถึงเช็คกับทางศูนย์วอลโว่ กรมขนส่ง และธนาคาร ก่อน ไม่เช่นนั้นคงหมดเงินนับแสน ต้องขอขอบคุณพี่ๆ ทุกๆ ท่านด้วยครับที่ให้คำแนะนำ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังหาซื้อรถด้วยน่ะครับ

หมายเหตุ :
- ภาพที่นำมาลงขายเดือน ก.พ. 58 กับภาพรถที่ขายไปแล้ว มิ.ย. 57 เป็นภาพเดียวกัน แต่ใช้ข้อมูลเปลี่ยนอะไหล่ตัวเดียวกัน และชื่อเจ้าของก็ไม่ตรงกัน
- เลขไมล์ที่ถามคนขาย 112,460 km. กับเลขไมล์ที่ลงขายไปแล้ว 112,000 km. ผ่านมาเกือบ 8 เดือน วิ่งไปแค่ 460 km ? และรถแจ้งว่าอยู่เชียงรายซึ่งขัดแย้งกัน
- เช็คกับทางศูนย์วอลโว่รามอินทราผู้ให้บริการ ล่าสุดเข้าเดือน มิ.ย. 56 ผ่านมาเกือบ 2 ปี ซึ่งปกติอย่างน้อยต้องเข้า 1-2 ครั้ง/ปี และขัดแย้งกับผู้ขาย

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง CR :
- ภาพรถคันเดียวกัน ที่ขายไปแล้ว มิ.ย. 57 ***เช็คข้อมูลกับศูนย์วอลโว่รามอินทรา รถเข้าศูนย์ครั้งสุดท้าย มิ.ย. 56 เจ้าของเป็นคนไทย ขอบคุณศูนย์วอลโว่รามอินทราด้วยครับ***
- ภาพรถคันเดียวกัน ที่นำมาโพส ก.พ. 58 ***user คนละคนกับเว็บแรก***
- ข้อมูลประสบการณ์ที่แชร์ต่อๆ กันลักษณะแบบเดียวกัน ***สังเกตุรูปแบบข้อความจะแบบเดียวกัน ต่างกันที่อีเมล์ และเบอร์***
- คนที่มาเตือนเจอลักษณะแบบเดียวกัน

***ส่วนด้านล่างเป็นวิธีการหลอกเหยื่อตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงขั้นตอนการโอนเงิน***

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=jtdw4tJ0EbA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=jtdw4tJ0EbA</a>

ระบบเดิมเป็น R12 : รถยนต์ที่ผลิตก่อนปี 96
- แรงดัน + ความร้อนต่ำกว่ามาก แอร์จะเย็นกว่า ปัญหาการรั่วซึมน้อยกว่า
- ไม่สามารถเติม R134a ได้
- หากต้องการเปลี่ยนเป็นเติม R134a จะต้องเปลี่ยน คอยล์เย็น (ตู้แอร์) ---> ไดเออร์ ---> น้ำมันคอมแอร์ ---> คอมแอร์ (คอมเพรสเซอร์) เปลี่ยนเฉพาะซีลโอริงจากเดิม NBR เป็น RBR ---> แผงคอยล์ร้อนจะใหญ่กว่าของเดิม (รังผึ้งแอร์/คอนเดนเซอร์) ---> สวิท ข้อต่อ วาล์วหัวเติม สายอ่อน ท่อแอร์ทั้งหมด ---> คลีนทั้งระบบ  เพื่อให้รองรับกับน้ำยาแอร์ตัวใหม่เท่านั้น
- ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนของโลก (CFC)
- อะไหล่ น้ำยาแอร์ หายาก และแพงกว่า

ระบบเดิมเป็น R134a : รถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 96
- สามารถเติม R12 ได้เลย เพียงแค่เปลี่ยนน้ำมันคอมแอร์เป็น R12 + ไล่น้ำยาของเก่าออกให้หมดเท่านั้น
- ดูดความชื้นในระบบได้มากกว่า โอกาสการเกิดสนิมภายในระบบจึงเกิดขึ้นได้ง่าย
- แรงดัน (Hi ดีกว่า) + ความร้อนสูงกว่า ถ้าไม่เปลี่ยนชุดอุปกรณ์ให้ตรงตาม R134a โอกาสรั่วมีสูง เพราะมีโมเลกุลที่ละเอียดเล็กกว่ามาก
- พัดลมหม้อน้ำทำงานเร็ว+มากขึ้น
- ควรเพิ่มพัดลมหน้าแผงรังผึ้งแอร์ เพื่อระบายความร้อนได้เร็วขึ้น ยืดอายุชิ้นส่วนภายในต่างๆ
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า และลดปัญหาภาวะเรือนกระจก
- อะไหล่ น้ำยาแอร์ หาซื้อง่าย และถูกกว่า

หมายเหตุ
- คอมแอร์ถ้าเปลี่ยนเบอร์ที่สูงขึ้น หรือลูกใหญ่ขึ้น ทำให้ฉุดกำลังเครื่อง ส่งผลให้เครื่องทำงานหนัก สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น
- แผงรังผึ้งแอร์แบบอลูมิเนียมจะระบายความร้อนได้เร็ว และแอร์เย็นไว
- ไม่ควรเติมน้ำยาผสม หรือรวมกัน
- ที่ฉลากคอมแอร์ / แผงรังผึ้งแอร์ / ตู้แอร์ / สายท่อ จะระบุชนิดน้ำยาแอร์ที่จะเติมไว้ว่าเป็นแบบไหน ***กรณีระบบไม่ได้มีการดัดแปลงมา R12 จะเป็นเกลียวหมุน (รูไม่เสมอกัน มีบ่าด้านใน) ส่วน R134a จะเป็นแบบจุ๊บบ็อค (ปาก+ก้นรู ขนาดเท่ากัน)***
- หัวน็อตยึดท่อสายน้ำยาแอร์ทุกจุดของ R134a (ตัวใหม่) จะเป็นเบอร์ 10 ส่วนหัวน็อตยึดของ R12 (ตัวเก่า) จะเป็นเบอร์ 12
- การแปลงหัวข้อต่อเข้าคอมแอร์ หรือแผงรังผึ้งแอร์ ช่างจะต้องมีความชำนาญ เพราะโอกาสรั่วมีสูง ***การไม่มีจุดเชื่อมต่อดีที่สุด ลดการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี***
- ควรใช้น้ำมันคอมแอร์ให้ตรงรุ่นกับคอมแอร์ R12 หรือ R134a ตรงตามระบบที่เราใช้งานเท่านั้น
- หากระบบเดิมเป็น R12 ต้องการเปลี่ยนเฉพาะแต่คอมแอร์เป็นแบบ R134a และยังต้องการใช้ระบบเดิมอยู่ ให้ใช้น้ำมันคอมแอร์เป็นแบบ R12 เท่านั้น
- หากระบบเดิมเป็น R12 ต้องการเปลี่ยนระบบเป็น R134a ให้เปลี่ยนชุดอุปกรณ์เพื่อรองรับ R134a ข้างต้น และต้องการใช้คอมแอร์ R12 แบบเดิม จะต้องเท ล้างน้ำมันคอมแอร์เก่าให้เกลี้ยง (ใช้น้ำมันคอมแอร์ R134a แทน) + เปลี่ยนซีลโอริง (RBR) + ไล่ระบบใหม่ทั้งหมด

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง :
- สรุปข้อดี-ข้อเสีย คอมแอร์รถยนต์แบบลูกสูบ vs โรตารี่ อย่างไหนดีกว่ามาดูกันครับ
- DIY เช็ค+เติมน้ำยาแอร์รถยนต์เอง มาดูกันว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง
- วอลโว่ 960 เพิ่มพัดลมเป่า 14" หน้าแผงรังผึ้งแอร์ (คอยล์ร้อน)
- diy ลองหัดเปลี่ยนแผงรังผึ้งแอร์หน้ารถ(คอยล์ร้อนรั่ว) ทำเองได้ประหยัดไม่ยากครับ





จะรู้ได้อย่างไรว่ารถเราเติมเป็นน้ำยาแอร์เบอร์ R12 หรือ R134a, คอมแอร์ คอมเพรสเซอร์ R134a เติมน้ำแอร์ R12 ได้ไหม, แผงรังผึ้งแอร์ คอยล์ร้อน คอนเดนเซอร์ R134a เติมน้ำยาแอร์ R12 ได้ไหม, ใครเคยเปลี่ยนน้ำยาแอร์รถยนต์จากเบอร์ R12 เป็น R134a บ้าง, ระบบเป็น R12 สามารถใช้ตู้แอร์ ไดเออร์ คอมแอร์ รังผึ้งแอร์ สวิท ข้อต่อ วาล์วหัวเติม สายอ่อน ท่อแอร์เป็นของ R134a ได้เลย, น้ำยาแอร์ R12 กับ R134a ตัวไหนเย็นกว่า, คอมแอร์ R134a ไปใช้กับระบบ R12 ต้องใช้น้ำมันคอมแอร์ชนิดไหน, คอมแอร์ R12 เติมน้ำยาแอร์ R134a ได้ไหม

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

อาการเกียร์ค้างที่ P มีสาเหตุ และวิธีแก้ไขอย่างไรมาดูกันครับ

สาเหตุ
1. จอดบนทางลาด เข้าเกียร์ P ไว้ โดยไม่ได้ดึงเบรคมือขึ้น และตั้งพวงมาลัยไม่ตรง
2. ฟิวส์/ไฟเบรคหลังรถขาด/ไม่ติด/ไฟไม่เข้ากล่อง
3. สวิท/ปลั๊กไฟตรงหลังคันเบรคเสีย ขั้วสกปรก ไฟเดินไม่สะดวก / คันหลังแป้นกับสวิทไม่ชน/เหลื่อมกัน
4. โซลินอยด์ล็อคคันเกียร์ขายึดหัก/เสีย/ไม่ทำงาน
5. กล่องวงจรควบคุมการเลื่อนเกียร์ (ใต้แป้นเกียร์) สายไฟ  ตัว C (บวม แตก เยิ้ม ละลาย)  เส้นทองแดงบนแผงวงจรชำรุด/ขาด

การแก้ไข
1. ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องจอดบนทางลาด/ชัน หน้าขึ้น/ลง ก่อนดับเครื่องให้เหยียบเบรค ---> ดึงเบรคมือขึ้นให้สุดทุกครั้ง --->  เข้า P และตั้งพวงมาลัยให้ตรงกันคอล็อค ก็จะแก้ปัญหาอาการเกียร์ล็อค/ค้างได้
2. เช็คฟิวส์/ไฟเบรค/หลอดไฟ หลังรถว่าเหยียบติดไหม
3. เมื่อสตาร์ทรถ เหยียบเบรคย้ำๆ จะได้ยินเสียงดังแต๊กๆๆๆ (โซลินอยด์ทำงาน) บริเวณคันเกียร์ ถ้าไม่ได้ยินให้เช็คสวิท/ปลั๊กไฟตรงหลังแป้นเบรคก่อน สาเหตุหลักมาจากจุดนี้ ให้ทำความสะอาดจุดปลั๊กเสียบหางปลา ใช้กระดาษทรายขัดล้างด้วยโซแนค (Sonax)/เปลี่ยนสวิท
4. เช็คโซลินอยด์โดยการจ่ายไฟว่าแกนดึงเข้า-ออกปกติไหม และเช็คระยะห่างของแกนว่าเข้าสุด ออกสุดตรงตามตำแหน่งเดิม หรือไม่
5. กล่องวงจรควบคุมการเลื่อนเกียร์ ให้สังเกตุอย่างละเอียดทั้ง สายไฟ  ตัว C (ใช้หัวแร้งจี้ที่ขาออกจากแผงวงจร ด้วยความระมัดระวัง เอาตัวอย่างหาซื้อได้ตามร้านอิเล็คทรอนิกส์ทั่วไป)  และเส้นทองแดงบนแผงวงจร (หากเส้นขาดใช้สายไฟเชื่อมบัดกรีที่หัวท้าย)

แนะนำ
- รถยนต์บางรุ่นเมื่อเข้าเกียร์ N ดับเครื่องแล้ว ไม่สามารถดึงกุญแจออกได้ ต้องเข้า P เท่านั้นจึงจะสามารถดึงกุญแจออกได้ (เป็นระบบเซฟตี้) จากนั้นจึงเสียบกุญแจ/กดที่ชิพล็อค (Shift Lock) แล้วเลื่อนมายัง N  บางเคสก็ใช้วิธีการปลดล็อคโดยการถอดฝาครอบรูเสียบกุญแจออก สังเกตุปลั๊กสายไฟ จะเสียบที่ท้ายรูกุญแจด้านนอก เมื่อดึงออกแล้วก็จะสามารถจอดรถที่ตำแหน่ง N และดึงกุญแจออกได้ตามปกติ แต่ก่อนสตาร์ทให้เช็คตำแหน่งเกียร์ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย
- สำหรับบางเคสไม่สามารถสตาร์ทรถที่ตำแหน่ง N/P ได้ ให้กดชิพล็อคสลับไปยัง N/P ใหม่อีกครั้ง ***หน้าคอนแท็คไม่สัมผัส/ไม่เข้าล็อค, รถจะไม่สามารถสตาร์ทที่ตำแหน่งเกียร์ R N(บางรุ่นต้องเหยียบเบรค จึงจะสามารถสตาร์ทได้ตามปกติ) D 2 1 L***

เคสนี้เป็นวอลโว่ 240 วาง 1j ge ฝาขาว : เริ่มจากสตาร์ทรถ เหยียบเบรคย้ำๆ (ไม่มีเสียงดังแต๊กๆ ที่เกียร์) ---> เหยียบเบรคเช็คไฟเบรคท้ายติดไหม (เคสนี้ทำคนเดียวเลยใช้ดัมเบลช่วยครับ  แต่ไฟไม่ติด) ---> เปิดฝาใต้คอพวงมาลัย จะเห็นสวิทคันเบรค ดึงสายไฟทั้ง 2 เส้นออก เอามาแตะกัน (เป็นการเช็คสวิท) ---> ฟังเสียงที่เกียร์อีกครั้ง (เงียบเหมือนเดิม) เช็คไฟเบรคหลังรถอีกครั้ง (ไม่ติดเหมือนเดิม) ดังนั้นหลอดไฟเบรค กับสวิทคันเบรคไม่ได้เสีย ---> ต่อไปเช็คโซลินอยด์กับกล่องควบคุมเกียร์ ---> ขายึดโซลินอยด์ปกติไม่ได้หัก จ่ายไฟเข้าโดยตรงก็ชักเข้า-ออกสุดปกติเช่นกัน ส่วนแผงวงจรหน้า+หลังเช็คอย่างละเอียดไม่พบร่องรอยตัว C เสียหาย / ลายทองแดงบนแผงวงจรไม่ชำรุดแต่อย่างใด ตัดประเด็นนี้ออกไปได้เลย ---> ต่อไปเช็คกล่องฟิวส์ควบคุมระบบไฟในรถ ไล่ถอดออกมาทำความสะอาดทีละตัว ทั้งหมด 16 ตัว พบไม่ปกติ 2 ตัว ---> ตัวแรกที่เห็นชัดเจนคือฟิวส์ขาดได้มีการนำทองแดงมาพันไว้ (ตัวนี้ควบคุมไฟเพดาน) ยังใช้งานได้ปกติ แต่ได้นำมาบัดกรีให้ไฟเดินสะดวกมากขึ้น ส่วนอีกตัว หรือตัวปัญหา เมื่อมองตาเปล่าจะพบว่าปกติ แต่เมื่อแกะออกมาจะพบว่าขั้วหัว-ท้ายที่ฟิวส์ กร่อน ขึ้นคราบขาวๆ ลักษณะเหมือนหินปูน ตามภาพ จึงได้เปลี่ยนใช้ฟิวส์สำรอง ---> ทดสอบใช้งานอีกครั้งพบว่าเมื่อเหยียบเบรคย้ำๆ เสียงแต๊กๆ ดังที่เกียร์เหมือนเดิมแล้ว ไฟเบรคกลับมาติดเหมือนเดิม สรุปงานนี้แก้ไขไปได้อีก 1 เคส ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ครับ กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ดังเดิม     




เกียร์ออโต้ (Auto) เข้า P แล้วค้าง, เกียร์ค้างที่ P, เลื่อนเกียร์ไม่ได้, เข้าเกียร์ไม่ได้, เหยียบเบรค กดปุ่มที่หัวเกียร์ แล้วออกจาก P ไม่ได้, เลื่อนเกียร์มา R ไม่ได้, กดปุ่มล็อคเกียร์จาก P ไป R ไม่ได้, จอดบนทางลาด เข้า P ไม่ได้ยกเบรคมือ, เปลี่ยนเกียร์ P ไปเกียร์อื่นไม่ได้, ขา โซลินอยด์เกียร์หัก ไม่ทำงาน, สวิทคันเบรคเสีย, ไฟเบรคท้ายไม่ติด หลอดขาด, ฟิวส์ควบคุมไฟเบรคหลังขาด ไฟไม่เข้ากล่อง , รูมออโต้พาร์ท, room autoparts, บอร์ดอะไหล่รถยนต์

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=fFYpaY4XZ-Y" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=fFYpaY4XZ-Y</a>

อาการ : เริ่มจากเมื่อตอนที่ได้รถมา สตาร์ทยาก ลากรอบยาว พอขับแล้วปล่อยคันเร่ง จะมีอาการสั่น เบา และเกือบดับทุกครั้ง เป็นทั้งแก๊ส และน้ำมัน

แก้ปัญหา :

1. เริ่มต้นจากการเช็คหัวเทียนก่อนลำดับแรก โดยถอดฝาครอบ หม้อกรองอากาศ ท่อแก๊ส+น้ำ สายคันเร่ง+คิกดาวน์ ปลั๊กสายไฟ และลิ้นปีกผีเสื้อออก

2. ถอดสายปลั๊กคอยล์หัวเทียนออกทีละหัว จนครบทั้ง 6 หัว จะพบว่ามีน้ำมันที่ซึมมาจากซีลฝาครอบวาล์ว ไหลลงไปในช่องใส่หัวเทียน รวมถึงท่อน้ำที่เสียบอยู่กับลิ้นปีกผีเสื้อ ก็อยู่ใกล้กับช่องใส่หัวเทียนเลยทำให้น้ำยาคูแลนด์ไหลลงไปในช่องใส่หัวเทียนด้วยเช่นกันตามภาพ เบ็ดเสร็จพบแทบเกือบทุกหัว จะหนักสุดที่ 2 หัวสุดท้าย (นับจากด้านในออกมา)

3. เดิมทีใช้ตัวบีบดูด แต่มันอยู่ลึกกว่าที่คิด เลยต้องใช้หลอดยาวต่อเข้ากับเครื่องดูดฝุ่นดูดแทน ผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก น้ำมันกับน้ำถูกดูดออกมาจนหมดทุกช่อง รวมถึงเศษคล้ายๆ ดินที่อยู่รอบๆ หัวเทียนในแต่ละหัวก็ออกมาหมดด้วยเช่นกัน เล่นเอาซะเหนื่อยเลยเพราะต้องปีนขึ้นไปเหยียบบนห้องเครื่องเลย ไม่งั้นมองไม่เห็นช่องที่จะดูด จากนั้นก็ทำความสะอาดในแต่ละช่องให้แห้งสนิท อย่าให้เหลือเศษดินตะกอนใดๆ ทั้งสิ้น ช่องอาจจะเล็กไปหน่อย ต้องหาด้ามต่อเพื่อเช็ดตามซอกตามมุมต่างๆ อย่าลืมทำความสะอาดที่ปลั๊กคอยล์ด้วยน่ะครบ

4. ถัดมาก็จะเป็นการถอดหัวเทียนออกมาทีละหัว จนครบทั้ง 6 หัว สภาพแต่ละหัวดูไม่ได้เลยครับทั้งดำ สกปรก และสนิม แต่การเผาไหม้จากทั้ง 6 หัวเมื่อเทียบแล้วถือว่าโอเคเลยครับ  ให้เอาเครื่องดูดฝุ่นดูดเก็บในแต่ละช่องอีกรอบน่ะครับเพราะยังมีเศษหลงเหลืออีกนิดหน่อย เครื่องตัวนี้เจ้าของเดิมวางมาได้ประมาณปีกว่าๆ ได้เอาหัวเทียนไปเทียบซื้อที่ร้าน ทางร้านแจ้งว่าน่าจะเป็นของแท้ญี่ปุ่นติดเครื่องมาเลย(สีฟ้า) ทางร้านมีหัวเทียนแบบเข็ม(สีเขียว) NGK BKR5EP ใช้ได้เหมือนกัน ก็เลยจัดมา 6 หัว @ 120.-       

5. ก่อนใส่หัวเทียน ให้ขันน็อตทุกตัวที่ฝาครอบวาล์วให้แน่นพอตึงมืออีกครั้ง ปรากฎว่าน็อตแต่ละตัวหมุนง่ายมากเลยครับ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำมันไหลเข้าช่องใส่หัวเทียนได้ จากนั้นก็ใส่หัวเทียนชุดใหม่ลงไปให้ครบ ทั้ง 6 หัวขันพอตึงมือเช่นกัน หมวกปิดตรงหัวปลั๊คคอยล์ เมื่อใช้ไปนานๆ จะทำให้ขอบยางแข็งน้ำสามารถไหลผ่านลงไปในช่องใส่หัวเทียนได้ ให้นำซิลิโคนทาบางๆ รอบขอบปีกหมวกแล้วเสียบหัวเทียนเข้าในแต่ละช่องตามปกติ จากนั้นประกอบกลับ เป็นอันเสร็จครับ

ผลที่ได้รับ : สตาร์ทติดง่ายมาก แรงอัดเร่งดีกว่าเก่า กดคันเร่งหรือผ่อนไม่มีอาการสั่น เบา หรือใกล้ดับให้เห็นอีก กลับมาใช้งานได้ตามปกติทั้งแก๊ส และน้ำมัน

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง : DIY ซีลฝาครอบวาล์ว แก้อาการน้ำมันเข้าช่องหัวเทียน กำลังอัดลด 1-2JZ GE GTE VVTI





ร่วมแชร์ประสบการณ์ D.I.Y. พบปะ แลกเปลี่ยน พูดคุย ซื้อขาย รถยนต์ทุกยี่ห้อได้ที่ รูม ออโต้พาร์ท

ขอบคุณครับ

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

ภายใน :

1. ไฟ Engine + Message โชว์ และแจ้งเตือนที่หน้าปัดตลอด : สำหรับรถที่นำไปติดแก๊สระบบหัวฉีดมา มักจะพบเมื่อมีการใช้งานแก๊ส และจะหายไปเมื่อกลับไปใช้น้ำมันต่อเนื่องประมาณสัก 1-2 อาทิตย์ สาเหตุมาจากกล่องรับคำสั่งจ่ายหัวฉีดคลาดเคลื่อนทำให้มีการแจ้งเตือนเกิดขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วระบบเครื่องยนต์ไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด บางท่านก็จะใช้วิธีลบ Message แต่ประมาณ 1 อาทิตย์ก็จะโชว์ขึ้นมาใหม่ ส่วนไฟ Engine ก็จะโชว์ตลอด (ช่างบางคนแนะนำให้ใช้กล่องเพื่อหลอกอีกที แต่ค่าใช้จ่ายสูง)

2. ไฟ ABS โชว์ที่หน้าปัดตลอด : สาเหตุมาจาก Airbag เมื่อเกิน 10 ปี ระบบจะมีการแจ้งเตือน (ถุงลมเก่าหมดอายุ) เนื่องจากค่าตัวราคาค่อนข้างสูง บางท่านก็จะนำไปให้ช่างเอาออก + แก้ไขที่ระบบไฟเพื่อให้ไฟเตือนดับไป

3. สวิท ปุ่มต่างๆ ตรงหน้าคอนโซนเหนียว ละลาย : ไม่ว่าจะวิทยุ แอร์ ที่เสียบปากกา ฯลฯ จะเคลือบสารปกป้องผิวมาจากโรงงานสีจะออกเทาๆ เมื่อผ่านการใช้งานมานานจะมีลักษณะเหนียวๆ สาเหตุมาจากสารที่เคลือบไว้เริ่มเสื่อมสภาพ ละลาย บางท่านก็จะใช้วิธีเช็ดคราบเหนียวๆ ที่ปุ่มออก หลังจากเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว สวิท ปุ่มต่างๆ ก็จะมีสีเหมือนก่อนเคลือบสารคือสีดำ แต่ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ ให้เช็คที่ปุ่ม Volume ทดสอบหมุนปรับระดับเสียงว่ายังใช้งานได้ตามปกติไหม ปุ่มนี้จะเสียง่ายสุด แต่ก็สามารถใช้ปุ่ม Cruse Control ที่พวงมาลัยแทนได้ตามปกติ

4. แผงหุ้มด้านข้างประตูกาวเสื่อม : เมื่อมีการใช้งานมานาน + รื้อซ่อมบริเวณบานประตู กาวซิลิโคนที่หยอดติดไว้เริ่มเสื่อมสภาพ ก็จะทำให้แผงหุ้มบางส่วนเมื่อใช้นิ้วดันก็จะเผยอแยกออก อาจต้องไล่เก็บงานเพื่อให้กลับมาสวย แบบเดิมๆ

5. เช็คจุดอื่นๆ ที่สำคัญ ว่าร้าว แตกหัก ขาด ใช้งานได้หรือไม่ : เบาะที่นั่ง เบาะพับที่นั่งเด็ก ที่วางแก้วน้ำ ขอบยางรองอะไหล่ล้อรถยนต์ ยางขอบประตู สลักล็อคฝาปิดถังน้ำมัน โช็คประตูบานหลัง

***สำหรับภายนอกก็สังเกตุสีรอบคัน หลังคา ไฟต่างๆ คร่าวๆ พอครับ***


เครื่องยนต์ :

1. เครื่องจะต้องไม่เยิ้ม หรือห้องเครื่องล้างมา, ถ้าใส่น้ำยาคูแลนด์ในหม้อน้ำมาแสดงถึงเจ้าของเอาใจใส่ดูแล, หม้อน้ำจะต้องไม่เติมบ่อยถ้า 6 เดือน - 1 ปี เติมที ถือว่าใช้ได้ (แต่ถ้าเติมทุกวัน หรือทุกอาทิตย์ให้ห่างไกลไว้ก่อนครับ) ถ้าเข้า Concept นี้มีชัยไปกว่าครึ่ง, ฮีทเตอร์ปกติถ้าติดแก๊สแล้วช่างจะตัดออก+อุด ป้องกันน้ำรั่วเข้าห้องโดยสาร และไม่มีความจำเป็นใช้งานในบ้านเราครับ

2. ทดสอบลองขับเพื่อเช็คระบบเครื่องยนต์ เกียร์ และเบรค : ทั้งแก๊ส และน้ำมันว่า สั่น กระพือไหม, เมื่อกดคันเร่ง รอบูสสักแป๊ป turbo ถึงจะทำงานโดยจะรู้สึกดึงนิดๆ, เข้าเกียร์ต้องนิ่มนวลไม่แข็ง ให้เข้าครบทุกเกียร์จะต้องไม่สะดุด หรือกระตุก (รุ่นนี้จะมีปัญหาเรื่องเกียร์ต้องเช็คให้แน่ใจเท่านั้น), ขณะขับให้สังเกตุ เมื่อเหยียบเบรคแล้วมีเสียงดัง ....ฟิวส์.... ไหม ถ้ามีแสดงว่าซีลหม้อลมเบรคใกล้ไปแล้ว

***ขณะทดลองขับ เทสเปิดเพลงพอประมาณน่ะครับ เสร็จแล้วปิด เพื่อสังเกตุเสียงช่วงล่าง ช่วงเลี้ยวว่าปกติไหม(ช่วงเลี้ยวจะกว้างเหมือนกันครับ ต้องเผื่อไว้นิดนึง) มีเสียงดังไหม  ส่วนโช๊ค สปริง ล้อถ้าได้มาเดิมๆ จะดีกว่าครับ ***

ปล. อันนี้เป็นข้อมูลจากประสบการณ์ตรงที่ได้ทดลองขับ และเจ้าของได้ให้ข้อมูลมาในแต่ละจุดๆ น่ะครับ ซึ่งรถรุ่นนี้ด้วยความชอบส่วนตัวแล้ว ทั้งดูสวย สง่า ออกหรูนิดๆ อยากได้มาใช้สักคัน และคงมีอีกหลายคนที่คิดเหมือนผม ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อ เพื่อให้ได้คันที่ดีที่สุดสำหรับท่านน่ะครับ

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง : เทคนิคการดูเครื่องยนต์ รถมือ 2 จากประสบการณ์ตรงครับ

CR : ภาพห้องเครื่อง V70

ขอบคุณครับ

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=P4F4RoMFyPA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=P4F4RoMFyPA</a>

D.I.Y. ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ และมอเตอร์เดินเบา 1JZ GE ฝาขาว LPG Mixer : เริ่มจากเมื่อตอนได้รถมา อาการจะมีลักษณะรอบตก ไม่นิ่ง บางจังหวะปล่อยคันเร่งแล้วเครื่องดับ สาเหตุหลักมาจากลิ้นปีกผีเสื้อ และมอเตอร์เดินบาสกปรกมาก เกิดจากน้ำมัน แก๊ส อากาศ ความร้อนมารวมตัวกัน การเผาไหม้ และผ่านการใช้งานมานาน ทำให้เกิดคราบสีดำเหนียวเกาะบริเวณลิ้นเร่งปีกผีเสื้อ คดแผ่นโลหะที่มอเตอร์เดินเบา และภายในท่อตามจุดอากาศไหลเวียนต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุอาการที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้น

ขั้นตอนการรื้อเริ่มจาก ดึงปลั๊กมอเตอร์เดินเบา และปลั๊กมอเตอร์สำหรับตั้งสตาร์ท (สังเกตุจุดมาร์คด้วยครับ ถ้าไม่จำเป็นอย่าไปยุ่งกับมันดีที่สุด) + เอาท่อ หม้อกรองอากาศ + สายคันเร่ง + สายคิกดาวน์ + ท่อน้ำออก ---> คลายน็อตเบอร์ 12 ออก ทั้งหมด 7 ตัว หรือท่านใดจะเอาท่อร่วมไอดีออกมาล้างเลยก็ได้ครับ

ตอนล้างผมไม่ได้ล้างด้วยเบนซินน่ะครับ เพราะลองแล้วออกยากมากจริงๆ เลยเปลี่ยนมาใช้น้ำยาล้างห้องน้ำเมจิคคลีนแบบเข้มข้นจะออกง่ายกว่า + ใช้แปรงสีฟันสำหรับซอกซอนตามรูต่างๆ ขั้นตอนนี้ผมล้างกว่าจะเกลี้ยงบอกตรงๆ เลยครับว่าเป็น 10 รอบ จะเห็นได้จากภาพครับ ---> หลังจากล้างเรียบร้อยแล้วก็ตากแดด หรือเป่าลมให้แห้งสนิท หยอดน้ำมันตามจุดข้อต่อต่างๆ และประกอบกลับตามเดิม

ปล.
- ตอนล้างไม่ได้เอาขั้วแบตออกครับ

- ถ้ารถไม่ได้ติดตั้งแก๊สใช้น้ำมันอย่างเดียวจะล้างออกง่ายกว่ารถที่ติดแก๊สครับ ยิ่งใช้อย่างเดียวไม่เคยล้างเลยลองนึกสภาพดูน่ะครับว่าจะเหนียวแค่ไหน

- ท่อทางเดินน้ำให้เอาน็อตอุดไว้กันน้ำออก จะได้ไม่เสียดายน้ำยาคูแลนด์ครับ

- สำหรับปะเก็นประกบปากท่อระหว่างลิ้นปีกผีเสื้อกับท่อร่วมไอดีมันจะเป็นแผ่นเหล็กบางๆ ถ้าของท่านใดร่อนก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนทีเดียวเลยก็ได้ครับ

- หลังจากล้างเรียบร้อยแล้วอาการดีขึ้นเห็นได้อย่างชัดเจน คือ เครื่องวอร์มกลับมาปกติ เดินเรียบ รอบนิ่ง ไม่มีอาการเครื่องดับให้เห็นอีกเลยครับ อัตราการเร่งดีขึ้นกว่าก่อนมาก และที่สำคัญช่วยประหยัดแก๊สด้วยครับ

- ระยะเวลาในการล้างครั้งต่อไป ขึ้นอยู่กับการใช้งาน อย่างผมใช้ไม่บ่อยอาทิตย์นึงใช้ 2-3 วัน 2-3 ปีล้างทีครับ และหมั่นทำความสะอาดไส้กรองอากาศอยู่เสมอครับ เพียงแค่นี้ก็อยู่กับเรายาวๆ แล้วครับ

ขอบคุณครับ

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

เมื่อ: มีนาคม 31, 2014, 11:42:50 PM 23 อื่นๆ / แกลอรี่ / Volvo 960 2JZ VVTI LPG หัวฉีด

Volvo 960 2JZ VVTI LPG หัวฉีด

ภายในวอลโว่ 960 ตาใหญ่ : ภายในเน้นเดิมๆ มีการแก้ไขระบบไฟฟ้า ปุ่ม สวิท สัญญาณไฟต่างๆ ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ รวมถึงเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดตามสภาพ ให้กลับมาใช้งานได้ดั่งเดิม นำแผงใต้เก๊ะ-ใต้คอพวงมาลัย 960 ตาเล็กพร้อมไฟส่องพื้นมาใส่เพิ่มความคลาสสิค เครื่องเสียงเปลี่ยนมาใช้ Pioneer 2 din 6" ลำโพง 4 คู่ เน้นฟังเบาๆ สบายๆ ระหว่างการเดินทาง

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=6S91C5LeWPU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=6S91C5LeWPU</a>

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

เมื่อ: มีนาคม 31, 2014, 09:09:57 PM 24 อื่นๆ / แกลอรี่ / Volvo 740/244-GL VIP Racing Style

Volvo 740/244-GL VIP Racing Style

   ช่วงนี้กระแสความแรงฮิตกินเจมีมาอย่างต่อเนื่อง ครั้นจะกินเจ ก็คงจะจำเจ วันนี้เรามาดู Car Concept ที่ยังคงไม่เปลี่ยนหัวใจ เน้นความ Classic ใช้งานจริง แฝงด้วยความแรง ที่ใครๆ ต้อง ฮืม!.... Step มีอะไรบ้างมาดูกัน

   ภายนอก : 740 GL หน้าแว่น ปี 90 เริ่มจากทำสีใหม่รอบคัน (ดำเทา) พร้อม Part ชุดแต่งแปลงจาก 850-T5 ซึ่งวางออกมาได้อย่างลงตัว และเปลี่ยนชุดไฟภายนอกใหม่ทั้งหมด ซึ่งจุดที่โดดเด่นจะอยู่ที่ไฟท้าย โดยได้นำชุดแต่งไฟทับทิม 740 มาปัดดำ ให้ตัดกับสีไฟท้ายเดิม และคิ้วสเตนเลสของ 940 ให้ความสะดุดตาไม่น้อยเลยทีเดียว

   เครื่องยนต์ : B230K 2.3 ลิตร 2,320 ซีซี 117 แรงม้า (วิ่งในเมือง 8 กม./ลิตร วิ่งนอกเมือง 12 กม./ลิตร) มีการปรับเปลี่ยนใหม่เกือบแทบทุกชิ้น (แท้ศูนย์) แต่ยังคงเน้นหัวใจเดิมอยู่ ได้ปรับแต่งเพิ่มเปลี่ยนเป็น Carburetor 244-Pierburg ใหม่ยกชุด (เบิกห้าง) จุดเด่นคือสามารถปรับเซ็ทน้ำมันให้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงประหยัดยิ่งขึ้น อัตราเร่งสูงสุด ดูแลรักษาง่าย ตามมาตรฐานโรงงาน กรองอากาศใช้เป็นกรองสแตนเลสของ Hurricane พร้อมใยกรอง ดักมวลอากาศเย็นให้ไหลผ่านกระบอกสูบเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ เพิ่มแรงอัด ระบบระบายความร้อนชุดหม้อน้ำใหม่สั่งทำพิเศษ 3 ชั้น เปลี่ยน Sensor เป็น Nissan R14 ให้พัดลมทำงานเร็วขึ้นที่อุณหภูมิ 90C เพิ่ม Filter กรอง/ระบายอากาศ ที่ท่อไอน้ำมันเครื่องก่อนวนกลับเข้าคาร์บิว เพื่อลดความหนาแน่นในห้องเครื่อง ส่วนท่อพักไอเสียเป็นสเตนเลส VIP Style นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่หยิบยกขึ้นมา ยังมีอีกกว่า 30 รายการที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เรียกได้ว่าคืนชีพขุมพลังเดิมให้กลับมาแรงได้ใหม่อีกครั้งเลยทีเดียว

   ช่วงล่าง : ได้ทำการปรับแต่งช๊อคอัพใหม่ พร้อมอัดน้ำมันกึ่งแก๊สใหม่ เพิ่มความหนืด หนึบ นิ่ม แล้วโหลดลงมา 2 นิ้ว รับกับชุดล้อหน้า และหลังของ Maverick 5 ก้าน ออฟเซ็ทนิ้วครึ่ง ขอบ 17 X 7.5 นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin 215/45 ZR17

   ภายใน : ได้ทำการ Renovated ใหม่ทั้งหมดเน้นโทนดำ พวงมาลัยเปลี่ยนเป็น Momo Nero Italy คอนโซลกลางติดเกจ์วัด Water Temp, Boost และ Volts ของ Shadow สุดท้ายกระหึ่ม เต็มสูตรด้วยเครื่องเสียงชุดใหญ่ของ Pioneer & SPL Stage จาก Denmark

   นับเป็นสายพันธุ์จากฝั่งยุโรปที่เห็นค่อนข้างยากในปัจจุบัน ที่คงความคลาสสิค ได้จนถึงปัจจุบัน และนำแนวโมเดิร์นมาปรับใช้ในไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว สำหรับเพื่อนๆ ท่านใดสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กระทู้นี้น่ะครับ

ขอบคุณครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=0qgYeOXC47Y" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=0qgYeOXC47Y</a>

ภายนอกวอลโว่ 740 GL

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

รอบที่แล้ว 960 2J vvti 230ps 3000cc LPG หัวฉีด เติมแก๊ส 600.- วิ่งทดสอบไปกลับกรุงเทพ-พัทยา 400 กม.
มาคราวนี้ได้มีการปรับแต่งเพิ่มเติม ดังนี้

1. Clean ชุดรางหัวฉีด เปลี่ยนลูกสูบ สปริง โอริง กรองหม้อต้ม ท่อ + Calibrate หัวฉีดแก๊สที่ 55 ms 6 หัว
2. เปลี่ยนหม้อต้มเป็น Tomasetto AT13 รองรับแรงม้าถึง 380hp + จูนแก๊ส
3. เปลี่ยนรังผึ้งเพิ่มพื้นที่ในหม้อน้ำ แยกออยเกียร์ออกมา ระบบคูแลนด์ลด และระบายความร้อนให้เร็วขึ้น
4. เปลี่ยน Vucuum Sensor เพิ่มความแม่นยำ ECU ในการจ่ายเชื้อเพลิง
5. Set ขั้ว + และกราว - 11 จุด เพิ่มหน้าสัมผัสให้ระบบไฟเสถียร เพิ่มอัตราเร่งในรอบสูงสุด
6. เปลี่ยนใช้กระจังหน้า Turbo ให้อากาศไหลผ่านได้มากขึ้น

***วันที่ 15 มี.ค. 57 จะไปเทสที่พัทยาอีกรอบแล้วจะกลับมารายงานผลให้ทราบครับ ***

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง : Volvo 960 2JZ VVTI LPG หัวฉีด

ขอบคุณครับ

ติดตามสมาชิกที่ให้ Thank You ไปยังโพสต์ของคุณ:

หน้า: 1 [2]
28 เม.ย. 2024
20:38
Today : 18084
Total : 43713797
roomautoparts@hotmail.com | me
2014 Room Autoparts All Rights Reserved